“ลาดตระเวนหนักแค่ไหนก็ไม่พอ…” เจ้าหน้าที่เล่าทั้งน้ำตา กระทิงโดนพรานฆ่ากลางอุทยาน

‘สัตว์ป่า’ ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งมีชีวิตที่อยู่ร่วมโลกเดียวกับเรา และคอยปรับสมดุลให้แก่ธรรมชาติได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทว่าชีวิตของพวกเขาเหล่านี้ก็ถูกเบียดเบียนโดยเหล่าสัตว์ประเสริฐอย่าง ‘มนุษย์’ เราดั่งที่เห็นในหลายๆ ข่าวที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้

และนี่ก็คืออีกหนึ่งเรื่องเศร้าที่ได้รับการเปิดเผยจากเพจ ส่วนประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช 

ที่ได้เผยภาพของกระทิงตัวหนึ่งที่ถูกนายพรานลักลอบฆ่าอย่างน่าเวทนา แม้ว่าเจ้าหน้าที่จะพยายามจะปกป้องชีวิตของสัตว์ป่าที่ไร้ทางสู้เหล่านี้ ด้วยการออกลาดตระเวนอย่างหนักก็ตาม และนี่คือข้อความที่ทางเพจได้อธิบายเรื่องราวเอาไว้

“พรานโหด ฆ่ากระทิงเขาอ่างฤาไนถลกหนังกลางป่า เจ้าหน้าที่เศร้าขนาดลาดตระเวนอย่างหนัก ชีวิตสัตว์ยังไม่ปลอดภัย”

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 20 มิ.ย 2561 เวลา 20.00 น. ขณะเจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์ป่าเขาปอออกลาดตระเวน ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นในป่า จำนวน 4 นัด เจ้าหน้าที่จึงได้ดักซุ่มจนถึงวันที่ 21 มิ.ย. 2561 เวลา ประมาณ 13.00 น.

เจ้าหน้าที่พบชายจำนวน 3 คนแบกกระสอบคล้ายถุงปุ๋ยการเกษตร ออกมาจากป่า เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัว แต่ชายทั้ง 3 คนได้วิ่ง หลบหนีเข้าป่าไป เจ้าหน้าที่จึงตรวจภายในกระสอบพบชิ้นเนื้อสัตว์ลักษณะใหม่สด จำนวน 3 กระสอบ น้ำหนักรวมประมาณ 135 กิโลกรัม

แต่เนื่องจากมีฝนตกหนัก และเป็นเวลาค่ำเจ้าหน้าที่จึงได้หยุดทำการตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าว

เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2561 เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าวอีกครั้งหนึ่งจึงพบซาก กระทิงนอนตายอยู่ในป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน ท้องที่หมู่ที่ 17 ตำบลขุนซ่อง อำเภอแก่งหางแมว จังหวัดจันทบุรี ซึ่งอยู่ห่างจากจุดที่พบซากชิ้นเนื้อไม่มากนัก

เจ้าหน้าที่ได้ประสานงานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ตำรวจและทหารในพื้นที่ร่วมตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ พบว่าเป็นกระทิงเพศผู้ อายุประมาณ 3 ปี น้ำหนักประมาณ 300-400 กิโลกรัม ลักษณะถูกชำแหละเอาเนื้อไปบางส่วน

ตรวจสอบพื้นที่โดยรอบพบปลอกกระสุนปืนลูกซองขนาดเบอร์ 12 ตกอยู่ห่างจากซากกระทิง ประมาณ 20 เมตร จำนวน 2 ปลอก เจ้าหน้าที่จึงได้ร่วมกันตรวจยึดซากกระทิงและปลอกกระสุนปืนพร้อมชิ้นเนื้อไว้ตรวจสอบหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีต่อไป”

โพสต์ต้นฉบับ

ภาพที่ได้เผยแพร่ออกมาได้สร้างความเศร้าสลดให้แก่ผู้ที่พบเห็นเป็นอย่างมาก ซึ่งชาวเน็ตก็ได้ให้ความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องความโหดร้ายนี้เอาไว้มากมาย อย่างเช่น

.

.

.

.

นับว่าเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นเลยไม่ว่าเหตุใดก็ตาม แต่ทั้งนี้ก็ต้องขอส่งกำลังใจไปให้แก่เจ้าหน้าที่ที่ทำงานอย่างหนักเพื่อปกป้องเหล่าสัตว์ที่น่าสงสารมา ณ ที่นี้ด้วย…

ที่มา: ส่วนประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช