ลองนั่ง RTC Smart Bus รถเมล์เชียงใหม่ 20 บาทตลอดสาย ทางเลือกดีๆ ของนักท่องเที่ยว

***รีวิวนี้เขียนขึ้นวันที่ 12 เมษายน 2018

หากพูดถึงตัวเลือกในการเดินทางภายในตัวเมืองเชียงใหม่ ชื่อของรถแดงและแท็กซี่สนามบินคงจะผุดขึ้นมาเป็นอันดับต้นๆ ซึ่งก็เป็นตัวเลือกที่อยู่คู่กับเมืองเชียงใหม่มาอย่างยาวนาน

แต่เมื่อย้อนกลับไปไม่กี่ปี เชียงใหม่ พยายามที่ผลักดันระบบการขนส่งสาธารณะอย่าง ‘รถเมล์’ เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้กับประชาชน แต่ก็ไม่ค่อยได้รับการตอบรับดีเท่าที่ควร

และเมื่อไม่นานมานี้ บางท่านอาจจะได้เห็นการพูดถึงในสังคมออนไลน์ เกี่ยวกับการให้บริการรถเมล์ในตัวเมืองเชียงใหม่มาอีกระลอก ซึ่งในคราวนี้แตกต่างจากรถเมล์ตัวก่อนหน้านั้น เพราะเป็นการให้บริการโดยบริษัทเอกชนเพียงอย่างเดียว

 

.

 

เรากำลังพูดถึง RTC Chiangmai Smart Bus หรือในอีกชื่อว่า CM Transit by RTC ดำเนินการโดยบริษัท เจียนนอล ทรานซิต คอปอเรชั่น เปิดให้บริการเดินรถสมาร์ทบัส แบ่งออกเป็น 2 สาย นั่นก็คือสายสีแดง (วนขวา) และสายสีเหลือง (วนซ้าย)

โดยในช่วงวันที่ 5 – 11 เมษายนที่ผ่านมา ทาง RTC ได้ทำการทดลองเดินรถเพื่อทำการทดสอบระบบทั้งหมด 11 คัน วนซ้าย 6 คัน วนขวา 5 คัน โดยเปิดให้ประชาชนสามารถใช้บริการได้ฟรี ก่อนจะเปิดให้บริการจริงในวันที่ 16 เมษายนนี้

 

 

ทางแคทดัมบ์ก็ได้มีโอกาสออกไปลองขึ้นรถเมล์ในวันที่ 11 เมษายนที่ผ่านมา เป็นวันสุดท้ายของการทดสอบระบบ จากการโปรโมทผ่านสื่อออนไลน์ ก็เลยอยากจะรู้ว่าระบบใหม่นี้ จะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับชาวเชียงใหม่และนักท่องเที่ยวมากน้อยแค่ไหน…

 

ช่วงวันที่ 5 – 11 เมษายน ที่ผ่านมา เป็นช่วงทดลองเดินรถและใช้บริการได้ฟรี!

 

ก่อนอื่นเลยต้องดูตารางข้อมูลการเดินรถเสียก่อน จากโพสต์ของเพจหลักนั้นจุดเริ่มต้นของสถานีจะมาจากสนามบินนานาชาติเชียงใหม่

เริ่มต้นเที่ยวแรกที่เวลา 6.00 น. และจะออกเที่ยวสุดท้ายในเวลา 22.30 น. ของทุกวัน และมีการตั้งเวลาเฉลี่ยการเดินทางไปถึงแต่ละป้ายห่างกันอยู่ที่ 20 นาที

 

ภาพเส้นทางเดินรถขนาดใหญ่คลิกที่นี่

 

เส้นทางการเดินรถตามแผนผัง สายสีแดง (วนขวา) จะเป็นเส้นทางเดินรถรอบนอกคูเมืองเป็นส่วนมาก ส่วนเส้นสีเหลือง (วนซ้าย) จะเป็นเส้นทางเดินรถที่ผ่านเข้าคูเมือง

ซึ่งทั้งสองเส้นทางนั้นครอบคลุมบริเวณ สนามบิน-คูเมือง และเส้นนิมมานเหมินท์ โดยจะใช้เวลาในการเดินทางต่อหนึ่งรอบประมาณ 40 นาที ถึง 1 ชั่วโมง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพจราจรในแต่ละช่วงเวลาด้วย

 

 

เมื่อพร้อมแล้วก็ออกมารอรถ #เหมียวเลเซอร์ เลือกขึ้นที่บริเวณ ป้ายหน้าหอประชุมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 1 (จุดจอด Mobike) มาถึงป้ายในช่วงเวลา 13.30 น.

 

การรอคอยของฉันช่างยาวนาน เอ้า… ใกล้มาถึงแล้วนี่หว่า

 

การรอคอยรถเป็นเรื่องปกติ แต่อยู่ที่ว่าจะต้องรอนานแค่ไหน สำหรับรถสมาร์ทบัสนี้ คุณจะสามารถตรวจสอบได้ว่ารถเดินทางมาถึงป้ายไหนแล้ว ผ่านแอปพลิเคชั่น CM Transit by RTC (มีทั้งในระบบ iOS และ Android)

 

รถใกล้มาถึงป้ายแล้ว

 

 

เมื่อเช็คดูเวลาแล้ว ตัวรถเมล์ถือว่าทำเวลาได้ดีเลยทีเดียว มาถึงป้ายประมาณ 13.40 น. ยืนรอไม่นานนัก ก็ได้ขึ้นรถแล้ว

โดยสายที่ #เหมียวเลเซอร์ ทดลองขึ้นนั้นเป็นสายสีเหลืองวนทางซ้ายเข้าคูเมือง เพื่อไปยังสนามบินนานาชาติเชียงใหม่

 

 

เป็นที่ล่ำลือกันว่ารถเมล์ส่วนใหญ่ จะจอดก่อนป้ายบ้าง จอดเลยป้ายบ้าง หรือไม่จอดเลยก็มี ทั้งนี้ในช่วงทดลองเดินรถของ CM Transit จะหยุดทุกป้ายตามแผนผังการเดินรถ หากไม่มีคนรอขึ้นก็จะจอดเพียงแค่ไม่กี่นาที ก่อนออกเดินทางต่อ

 

 

ลองจับเวลาอย่างคร่าวๆ ในการเดินทางช่วงเวลาบ่ายแบบนี้ อาจจะมีการจราจรหนาแน่นในบางพื้นที่ อย่างเช่นการจะเดินทางผ่านเซ็นทรัลพลาซา เชียงใหม่ แอร์พอร์ต (โรบินสันเชียงใหม่) ไปยังสนามบินนานาชาติเชียงใหม่ ถือว่าเป็นช่วงที่รถติดพอสมควร

 

ผ่านมาถึงเซ็นทรัลพลาซา เชียงใหม่ แอร์พอร์ต แล้ว

 

ในวงสีแดงคือคันที่ขึ้นเหมียวกำลังโดยสาร ผ่านเส้นหน้าโรบินสันเชียงใหม่เข้าสู่สนามบิน

 

แต่เมื่อผ่านไปได้สักพักก็เดินทางมาถึงสนามบินโดยสวัสดิภาพในเวลาประมาณ 14.20 ใช้เวลาในการเดินทางจากป้ายแรกจนถึงสนามบินโดยรวม 40 นาที

 

 

จากนั้นเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ขึ้นสายสีแดงต่อ (วนขวา) เพื่อกลับไปยังป้ายเดิม โดยที่รถต้นทางจากสนามบินจะจอดอยู่บริเวณป้ายทางซ้ายของทางออกที่ 1 (ฝั่งขาเข้าเที่ยวบินในประเทศ) เริ่มออกเดินรถในเวลา 14.30 น. ก็ต้องรอกันอีกสัก 10 นาที และออกตามเวลาเป๊ะๆ

 

เดินออกมาจากประตูทางออกที่ 1 เลี้ยวซ้ายมาจะเจอกับป้ายรถประจำสนามบิน

.

 

#เหมียวเลเซอร์ ได้ลองสอบถามพนักงานบนรถเมล์ในระหว่างเดินทางกลับไปยังป้ายเดิม หลังจากวันที่ 16 เมษายนเป็นต้นไป จะเปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบ ทั้งนี้ค่าบริการตลอดทั้งสายนั้นอยู่ที่ ‘ซาวบาท’ (20 บาท) เท่านั้น

 

.

 

แต่ว่าบนรถจะไม่มีการรับเงินสดใดๆ ทั้งสิ้น ผู้โดยสารจะต้องจ่ายผ่านบัตรสมาร์ทการ์ดแรบบิทเท่านั้น (ปัจจุบันรับเงินสดแล้วจ้า) โดยบัตรดังกล่าวสามารถนำไปใช้กับรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน BTS ในกรุงเทพฯ และรถสมาร์ทบัสของจังหวัดภูเก็ตได้ด้วย

 

.

 

ใช้บัตรสมาร์ทการ์ดในการจ่ายค่าโดยสาร บริเวณประตูด้านหน้ารถข้างคนขับ

 

ท่านสามารถหาซื้อได้ที่สนามบินนานาชาติเชียงใหม่ หรือกับพนักงานบนรถได้เลย มีราคาอยู่ที่ 300 บาท พร้อมอายุการใช้งาน 5 ปี

 

สภาพภายในของรถสมาร์ทบัส

.

.

.

.

 

จนกระทั่งเดินทางมาถึงจุดเริ่มต้นของการทดลองขึ้นรถเมล์ ณ ป้าย หอประชุมมหาวิทยลัยเชียง 2 (ปากทางออกหอศิลป์) จากเวลา 14.30 น. มาถึงป้ายเดิมประมาณ 14.50 น. ใช้เวลาเดินทางเพียง 20 นาทีเท่านั้นเอง

 

 

สำหรับการทดลองขึ้นรถในครั้งนี้ จุดที่น่าพอใจคือรถใหญ่ จุจำนวนผู้โดยสารได้มากถึง 40 คนต่อคัน มีเครื่องปรับอากาศเย็นสบาย มีพื้นที่รองรับผู้พิการและผู้สูงอายุ (ระบบ Priority Seat) รวมไปถึงการเดินรถที่ทำเวลาได้ดีในภาพรวม

 

บ๊าย บาย ไว้มีโอกาสจะมาใช้บริการอีกนะ!

 

เอาเป็นว่าหลังจากนี้วันที่ 16 เมษายนเป็นต้นไป ชาวเชียงใหม่และนักท่องเที่ยว ก็ลองไปใช้บริการกันดูนะ 20 บาทตลอดสาย ซาวบาทเท่านั้นเจ้า!

 

เรียบเรียงและลงพื้นที่โดย #เหมียวเลเซอร์

Comments

Leave a Reply