15 ความจริงของ แฮมเบอร์เกอร์ ที่คุณอาจจะไม่เคยรู้มาก่อน อ่านแล้วระวังจะหิวด้วย

แฮมเบอร์เกอร์เป็นอาหารฟาสต์ฟู้ดที่เป็นที่นิยมในหมู่ผู้คน ด้วยขนมปังหอมๆ ที่ประกบลงไปบนเนื้อย่างฉ่ำๆ ราดด้วยซอสสุดพิเศษ แซมไว้ด้วยผักกาดหอม มะเขือเทศสดๆ และผักดอง และที่ขาดไม่ได้คือชีสเยิ้มๆ อีกสักแผ่น สองแผ่น แค่ได้ยินก็รู้สึกน้ำลายไหลกันแล้ว

แต่วันนี้เราไม่ได้เราไม่ได้จะมาโชว์เมนูแฮมเบอร์เกอร์เฉยๆ แต่อย่างไร แต่เป็น ความจริง 15 ข้อของ แฮมเบอร์เกอร์ ที่คุณอาจจะไม่เคยรู้มาก่อน แต่ก็มีรูปด้วยอยู่ดีอ่ะนะ อ่านแล้วระวังจะหิวด้วย

คนอเมริกาทานเบอร์เกอร์โดยเฉลี่ย สามอันต่อสัปดาห์

 

ระบบเพิ่มลดเครื่องเบอร์เกอร์เคยออกแบบมาให้ลูกค้าจะใส่อะไรเป็นในเบอร์เกอร์เท่าไหร่ก็ได้

จนกระทั่งมีกลุ่มคน 8 คนมาสั่งเบอร์เกอร์ที่ใส่ไส้ 100 อย่าง

 

Robert Downey Jr. เคยบอกว่า Burger King ช่วยชีวิตของเขาเอาไว้

เขาเล่าว่าในปี 2003 เขามียาเสพติดจำนวนมากอยู่ในรถ เขาไปจอดสั่ง Burger King มากิน และพบว่ามันห่วยมากจนเขากลับมานั่งทบทวนชีวิต และทิ้งยาเสพติดทั้งหมดในรถลงทะเลไป

 

แต่ชาวอเมริกาเพียงประเทศเดียวก็ทานเบอร์เกอร์ไไปกว่า 50,000,000,000 อันต่อปีแล้ว

 

ร้าน White Castle ในเมือง Wichita รัฐ Kansas เป็นร้านแฟรนไชส์ เบอร์เกอร์ที่เก่าแก่ที่สุด

ก่อตั้งขึ้นในปี 1921 และขายเบอร์เกอร์ชิ้นแรกในราคาห้าเซนต์ (ราวๆ 1 บาท 50 สตางค์)

 

เบอร์เกอร์จากแมคโดนัลด์จะเน่าเสียยากมากจนถึงไม่เน่าเลย

เพราะมีสารเคมีข้างในช่วยป้องกันไว้ อย่างไรก็ตาม การลดลงของความชื้นภายในก็จะทำให้มันกลายเป็นเหมือนเนื้อตากแห้งไปแทนอยู่ดี

 

ในปี 2000 คิมจองอิลเคยอ้างว่าเขาเป็นคนคิดค้นแฮมเบอร์เกอร์

 

ที่แฮมเบอร์เกอร์ในโฆษณาส่วนใหญ่ดูดีนั้น เป็นเพราะว่ามันยังไม่สุกดีนั่นเอง

 

นักเศรษฐศาสตร์เคยเปรียบเทียบกำลังซื้อของแต่ล่ะประเทศในโลกด้วยจำนวน Big Mac ที่จะซื้อได้ในประเทศนั้นๆ ด้วยเงิน 50 ดอลลาร์สหรัฐ (ราวๆ 1,560 บาท)

การเปรียบเทียบนี้มีชื่อเรียกว่า “สารบัญ Big Mac”

 

แฮมเบอร์เกอร์ไม่ได้เป็นที่นิยมในสหรัฐอเมริกา จนกระทั่งในงาน St. Louis World’s Fair ในปี 1904

 

ในออสเตรเรีย Burger King จะถูกเรียกว่า Hungry Jack’s

 

แมคโดนัลด์ขายเบอร์เกอร์ได้ราวๆ 75 ชิ้นในทุกๆ หนึ่งวินาที

 

PETA เคยจะจ่ายเงิน 15,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราวๆ 468,000 บาท) ให้เมือง Hamburg

เพื่อให้เปลี่ยนชื่อเป็น Veggieburg แต่ก็โดนปฏิเสธ

 

ในช่วงสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง รัฐบาลสหรัฐอเมริกา เคยพยายามจะเปลี่ยนชื่อแฮมเบอร์เกอร์

เป็น “แซนด์วิชแห่งเสรีภาพ” เพื่อโปรโมตความรักชาติ

 

เกือบๆ 60% ของแซนด์วิชที่ขายไปทั่วโลกนั้น เป็นแฮมเบอร์เกอร์

 

ที่มา thechive

Comments

Leave a Reply