ในนาทีนี้คงไม่มีใครฮอตไปกว่า Miss Universe Thailand อย่าง มารีญา พูลเลิศลาภ หรือ มารีญา ลินน์ เอียเรียน ที่ในตอนนี้เธอเป็นตัวแทนของประเทศไทยไปร่วมประกวดในเวทีนานาชาติอย่าง Miss Universe ที่จัดขึ้นในประเทศสหรัฐอเมริกา
และด้วยความสดใสเป็นธรรมชาติ อีกทั้งไหวพริบและความสามารถที่โดดเด่นของเธอ ทำให้เธอนั้นได้เข้าไปยืนถึงในรอบ 5 คนสุดท้าย และแม้ว่าในครั้งนี้เธอจะไม่ได้ตำแหน่งมาครอง แต่เธอก็ยังคงเป็นนางงามอันดับหนึ่งที่ครองใจคนทั้งประเทศในตอนนี้
ว่าแต่เพื่อนๆ เคยสงสัยไหมว่า “ทำไมต้องมารีญา??” สาวหน้าฝรั่งอายุ 25 ปีคนนี้ ทำไมถึงทำให้เกิดกระแสมารีญาฟีเวอร์ได้ขนาดนี้ เราไปขุดคุ้ยประวัติและเหตุผลที่ว่าทำไมต้องเป็นเธอกันดีกว่า
มารีญา เป็นลูกครึ่งชาวสวีเดน-ไทย เป็นบุตรของ โกราน เอียเรียน ที่ทำอาชีพเป็นวิศวกรไฟฟ้า และนางชนกสรวง พูลเลิศลาภ อดีตอาจารย์ประจำสถาบันภาษา American Tesol Institute การย้ายไปทำงานในประเทศต่างๆ ของพ่อแม่ และการเรียนต่อในประเทศต่างๆ ของเธอทำให้เธอสามารถพูดได้หลายภาษา และเธอยังมีคุณสมบัติอีกหลายอย่าง
1. แม้ว่าเธอจะเป็นสาวหน้าฝรั่ง แต่เธอกลับสวยมากในเวลาที่สวมชุดไทย
.
2. เธอเป็นผู้หญิงที่มีการศึกษาดี เธอเรียนมัธยมที่ไทย แต่จบปริญญาตรีจากเนเธอร์แลนด์ ปริญญาโทจากสวีเดน สมัยเรียนเธอเคยเป็นพรีเซนเตอร์และพิธีกรแนะนำมหาวิทยาลัยด้วย ป๊อปมากๆ
3. สิ่งหนึ่งที่ทำให้เธอโดดเด่นไม่น้อยไปกว่าผู้เข้าประกวดคนอื่นๆ ก็คือความสูงกว่า 184 เซนติเมตร ของเธอ โดยเธอได้บอกว่าทั้งพ่อและแม่ ท่านทั้งคู่ก็สูงเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ดังนั้นเธอจังไม่มีสิทธิ์เลือก…
4. และอีกสิ่งที่ทำให้เธอนั้นดูสง่าก็คือ Stage Performance ท่าทาง การเดิน สายตา มารีญาคือปังที่สุดของปีนี้ เป็นเพราะว่าเธอนั้นมีประสบการณ์มาก ไม่ว่าจะเป็นการเดินแบบแบบไหนเธอก็สามารถหยุดหัวใจของผู้ชมได้
.
5. เธอเป็นผู้หญิงที่มีความเฉลียวฉลาดไหวพริบดี สังเกตได้จากการตอบคำถามหลายๆ ครั้งของเธอ ทั้งๆ ที่พูดเป็นภาษาไทยที่เธอไม่ถนัดเท่าไหร่ แต่เธอก็สามารถตอบและอธิบายออกมาได้อย่างกินใจ สะท้อนให้เห็นถึงทัศนคติในแง่บวก ที่เธอพกมาเต็มเปี่ยม
6. มารีญาเคยทำงานในวงการมามากมาย ดังนั้นการรู้มุมกล้องคงเป็นเรื่องที่จิ๊บๆ สำหรับเธอ ก็ดูสิถ่ายรูปไหนก็ไม่ตายสักรูป
7. เธอเคยออกซิงเกิ้ลกับค่ายสุดฮิปอย่าง Small Room ในเพลง “บุ๋ง” ที่แม้จะไม่โด่งดังมากนัก แต่ก็ติดหูในหมู่วัยรุ่นชิคๆ เอามากๆ
8. เธอเป็นนักเขียน เคยเขียนบทความเชิงวิชาการเป็นภาษาอังกฤษให้กับนิตยสาร ซึ่งแน่นอนภาษาอังกฤษเธออยู่ในระดับ Native Speaker นอกจากนี้เธอยังพูดภาษาจีนและเวียดนามพื้นฐานได้ด้วย คุณพ่อเธอเป็นคนสวีเดน เลยคิดว่าน่าจะพอรู้ภาษาสวีเดนพื้นฐานด้วยเช่นกัน อันนี้คือบทความเกี่ยว “มวยคุก” ที่เธอเขียนขึ้น
.
9. “เธอเคยเป็นเยาวชนที่ถูกคัดเลือกให้ไปทัศนศึกษาที่องค์กรนาซ่า และได้ขึ้นยานอวกาศ เธอจึงสนุกกับทุกๆอย่างที่เธอได้ทดลองทำ และเธอสามารถปรับตัวให้เข้ากับทุกเชื้อชาติได้ดี” (มีการประกาศเรื่องนี้ในช่วงการแนะนำตัวผู้เข้าประกวด)
10. ความสามารถพิเศษอื่นๆ งานอดิเรก เล่นเทนนิส เปียโน เทควันโด
11. วงการแฟชั่นไทยทั่วหล้า ที่เธอเคยเดินแบบให้ พร้อมที่จะเป็น Sponsor เสื้อผ้าให้เธอ เพราะฉะนั้นเรื่อง Costume ไม่ต้องห่วง ไมว่าจะเป็นคุณหมู Asava, คุณโจ้ Surface ผู้ทำชุดให้แนทและน้ำตาล และคุณป้อม วินิจ ช่างแต่งหน้าของชมพู่อารยาในตอนที่ไปเมืองคานส์
ทั้งหมดคือส่วนหนึ่งของทีมงานที่ผลักดันให้เธอเข้าประกวด MUT เพราะฉะนั้นการที่เราส่งมารีญาไปประกวด คือการนำทีมงานที่ยอดเยี่ยมที่สุดของประเทศไทยในขณะนี้ไปแสดงความสามารถให้ประจักษ์แก่สายตาชาวโลก
12. เธอลงปกนิตยสารชั้นนำมาแล้วแทบทุกเล่ม ปกติบางคนมงแล้วยังไม่ได้ขึ้นปก นี่เธอขึ้นปกก่อนได้มง ไม่เว้นแม้แต่ Vogue เธอก็เคยถ่ายมาแล้ว
.
.
13. มารีญาเธอมีชื่อเสียงอยู่แล้วพอตัว เธอจึงไม่ได้มาตะกายดาว แต่เธอมุ่งมั่นอยากมาประกวดเพื่อช่วยเหลือคนไทยให้พัฒนาตัวเองและแก้ปัญหาเด็กผู้หญิงที่ท้องในวัยเรียน
14. เธอเป็นคนเรียบร้อย มีความเป็นธรรมชาติสูงมาก ทัศนคติดี ครอบครัวเธอสนิทสนมกับเจ้าป้ากอแก้วผู้ที่ได้รับการยอมรับจากวงสังคมชั้นสูงว่ามีกิริยามารยาทและท่วงท่าที่สง่างาม ตอนเด็กๆ เธอเคยได้รับเลือกให้รำไทยต่อหน้าท่านทูตและได้เต้นรำกับเจ้าป้า
15. ที่สำคัญที่สุดเธอเข้ากับเพื่อนๆ ผู้เข้าประกวดทุกคนได้เป็นอย่างดี เพื่อนๆ ทุกคนรักและยอมรับในตัวมารีญาว่าเธอคือคนดีทั้งต่อหน้ากล้องและลับหลังกล้อง เรียกได้ว่าเธอคือคนที่น่ารักจริงๆ
.
แม้ว่าเธอนั้นจะไม่สามารถคว้าตำแหน่ง Miss Universe มาได้ แต่เธอก็สามารถครองใจคนไทยทั้งประเทศ และเราก็ขอเป็นกำลังใจให้กับการปฏิบัติหน้าที่อันยิ่งใหญ่ของเธอ ในฐานะนางงามของชาวไทยทุกคน
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.