32 สุดยอดผลงาน “สถาปัตยกรรม” จากรอบโลก ที่ควรค่าแก่การไปเห็นด้วยตาสักครั้งในชีวิต!!

สิ่งปลูกสร้างทุกแห่งล้วนแต่เป็นผลงานทางด้านศิลปะทั้งสิ้น ทุกอย่างเกิดจากการวางแผนตั้งแต่ระดับโครงสร้าง จนไปถึงตอนตกแต่ง

ทางเราก็ไม่อยากให้ท่านพลาดสิ่งดีๆ เหล่านี้ไป ก็เลยนำเอา 32 สถาปัตยกรรมที่เรียกได้ว่าเป็นระดับผลงานชิ้นเอกจากเว็บไซต์ Business Insider ที่เขาได้รวบรวมเอาไว้มาให้ทุกท่านได้ชื่นชม แต่ถ้าเป็นไปได้ ชีวิตนี้ควรค่าแก่การไปเห็นด้วยตาตัวเองมากๆ เราไปชมกันเลย!!

 

นี่คือสิ่งปลูกสร้างที่เก่าแก่ที่สุดเท่าที่รู้มา มันมีชื่อว่า Göbekli Tepe ตั้งอยู่ในประเทศตุรกี คาดว่าสร้างประมาณ 9500 ปีก่อนคริสตศักราช นักโบราณคดีไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าสร้างมาเพื่อจุดประสงค์ได้ แต่คาดว่าน่าจะเกี่ยวกับความเชื่อและศาสนา

 

นั่นคือจุดเริ่มต้นของการสร้าง จนมาถึงปัจจุบัน มนุษย์มีเทคโนโลยีก้าวไกล ทำให้สร้างอะไรได้มากกว่าเดิม อย่างตึก Fulton Center ในนิวยอร์กที่เหมือนหลุดมาจากอนาคต

 

และโรงเรียน Penleigh and Essendon Grammar School ในเมือง Melbourne ประเทศออสเตรเลียก็ออกแบบมาได้ล้ำไม่แพ้กัน

 

ตึกทรงแปลกนี้ชื่อว่า “Dancing House” ในเมืองปราก ออกแบบโดย Frank Gehry และ Vlado Milunic ในปี 1996 ซึ่งตึกนี้มีชื่อเล่นว่า “Fred and Ginger” เพื่อเป็นเกียรติให้กับสองนักเต้นคู่หู Fred Astaire และ Ginger Rogers

 

มาในเมืองอัมริตซาร์ ประเทศอินเดียกันบ้าง เราจะได้พบกับ Golden Temple สถาปัตยกรรมสุดงดงามที่ตั้งอยู่กลางแม่น้ำอัมริตซาร์

 

เป็นศูนย์กลางของศาสนาซิกข์ ส่องแสงสีทองยามค่ำคืน

 

ที่แห่งนี้เรียกว่า Las Lajas Sanctuary ในเมือง Narino ประเทศโคลอมเบีย เป็นสิ่งปลูกสร้างที่น่าอัศจรรย์ราวกับว่ามันกำลังต้านแรงโน้มถ่วงอยู่

 

สถาปัตยกรรมสไตล์โมเดิร์นโดย Antoni Gaudí ที่มีชื่อว่า Sagrada Família ถึงแม้ว่าเขาจะเสียชีวิตก่อนที่จะสร้างเสร็จ แต่มันก็ยังคงงดงาม ปัจจุบันก็ยังก่อสร้างอยู่เรื่อยๆ ดูจากภายนอกแล้วเหมือนหลุดออกมาจากโลกของนาร์เนียเลย

 

ภายในก็ดูงดงามเหนือจริงมากๆ

 

ตึก Flatiron ในนิวยอร์ก ถือได้ว่าเป็นตึกระฟ้าแห่งแรกเลยก็ว่าได้

 

แต่ก็ได้มีตึก Woolworth มาล้มสถิติ กลายเป็นตึกที่สูงที่สุดในโลกในช่วงปี 1913 ถึง 1930

 

ตึกทรงริบบิ้นที่เรียกกันว่า Ribbon Chapel นี้ตั้งอยู่ในเมือง Onomichi ประเทศญี่ปุ่น สร้างโดยคู่รักคู่หนึ่ง

 

โบสถ์แห่งหนึ่งในเกาหลีใต้ที่มีชื่อว่า Light of Life ตั้งอยู่ในกรุงโซล รายล้อมไปด้วยต้นไม้สีเขียวขจีจำนวนมาก

 

เมื่อเข้าไปภายในจะพบว่ามันแตกต่างจากข้างนอกเป็นอย่างมาก ราวกับคนละที่เลย

 

อพาร์ตเมนต์ Marina City ที่ตั้งอยู่ในชิคาโก มีการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 1964 และเป็นอีกหนึ่งตึกที่ใช้การสร้างแบบก่อและเครนแห่งแรกในสหรัฐฯ

 

ใช่ว่าตึกทุกหลังจะต้องสูงเฉียดฟ้า โบสถ์ Temppeliaukio ในเมืองเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ ถูกสร้างในใต้ดินแต่สามารถรับแสงอาทิตย์ได้อย่างเพียงพอ

 

โบสถ์ St. George ในเมือง Lalibela ประเทศเอธิโอเปีย ถูกสร้างด้วยหินเพียงก้อนเดียวในช่วงศตวรรษที่ 12

 

อีกหนึ่งสิ่งก่อสร้างที่คำนึงถึงวิวทิวทัศน์ก็คือตึก Turninn ในเมือง Reykjavík ที่ได้ติดกระจกไว้รอบๆ เพื่อให้สะท้อนให้เห็นถึงธรรมชาติโดยรอบประเทศไอซ์แลนด์

 

นักออกแบบ Mies van der Rohe ผู้เชี่ยวชาญทางด้านสิ่งก่อสร้างสไตล์โมเดิร์นได้ใช้การออกแบบแบบมินิมอลและโอเพนสเปซ เพื่อสร้างตึกที่เหมือนกับกำลังลอยอยู่กลางอากาศ ตึกแห่งนี้ชื่อว่า Neue Nationalgalerie ตั้งอยู่ในกรุงเบอร์ลิน ถูกสร้างมาตั้งแต่ยุค 1960

 

ที่เบอร์ลินยังมีตึก Berghain ที่ว่ากันว่าเป็นขึ้นชื่อว่าเป็น Mecca of Electronic Music

 

การผสมผสานสิ่งก่อสร้างและธรรมชาติเข้าด้วยกัน จนเกิดมาเป็นสถาปัตยกรรมอันงดงามในอดีตแห่งญี่ปุ่นในเมืองเกียวโตที่ชื่อว่า Golden Pavilion

 

ไม่ไกลจากเดิม ยังมี Silver Pavilion ให้เราได้ชมกันอีก

 

สิ่งก่อสร้างจากดินที่ใหญ่ที่สุดในโลกต้องยกให้ Great Mosque of Djenné แห่งเมือง Mali ที่สามารถบรรจุคนได้กว่า 3,000 คน

 

การออกแบบที่แปลกใหม่ใจกลางกรุงปารีสอย่างตึก Pompidou Center เป็นผลงานสไตล์โพสต์โมเดิร์นที่ไม่เหมือนใครในยุคนี้

 

ย้อนกลับไปในปี 1200 มหาวิหารชาทร์ทางตอนเหนือของฝรั่งเศส ถือเป็นตัวอย่างของสถาปัตยกรรมสไตล์โกธิคได้อย่างดี เห็นได้จากทางเข้าที่สร้างได้อย่างวิจิตร

 

ภายในนั้นยังมีออร์แกนขนาดใหญ่

 

สถานที่สำหรับการสักการะที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ก็น่าจะเป็น Blue Mosque ในอิสตันบูล ถูกสร้างในช่วงต้นยุคปี 1600 ในช่วงของจักรวรรดิออตโตมัน

 

ภายในประดับไปด้วยกระเบื้องที่ทำด้วยมือกว่า 20,000 ชิ้น

 

ปราสาท Neuschwanstein ในประเทศเยอรมนี ที่เป็นต้นแบบให้กับปราสาทในการ์ตูนเรื่อง เจ้าหญิงนิทรา ของ Walt Disney นั่นเอง

 

มหาวิทยาลัย Trinity College แห่งเมือง Dublin ว่ากันว่าเป็นอัญมณีแห่งมหาวิทยาลัยเลยก็ว่าได้

 

ภายในประกอบไปด้วยห้องสมุดที่กว้างใหญ่และงดงาม

 

พระราชวังต้องห้ามในประเทศจีน ถือเป็นอีกสถานที่หนึ่งออกได้รับการออกแบบทางสถาปัตยกรรมอย่างงดงาม

 

เพราะที่แห่งนี้เคยเป็นที่ทำการของรัฐบาลมาตั้งแต่ปี 1420 ถึง 1912

 

ภายในยังคงงดงามไม่เปลี่ยนแปลง

 

รายละเอียดของสิ่งก่อสร้างได้รับการออกแบบมาอย่างปรานีต

 

และในตอนนี้ ตึกที่แสดงความเป็นสไตล์โมเดิร์นก็ยังอยู่ที่เมืองปักกิ่งชื่อ CCTV Tower หรือเป็นที่รู้จักกันในชื่อ The Trousers

 

มาทางตอนใต้ของจีนกันบ้าง ที่โรงแรม Sheraton Huzhou ขนาด 27 ชั้น ได้ออกแบบมาให้มีรูปร่างคล้ายกับเกือกม้า ซึ่งนักออกแบบก็คือ Ma Yansong เจ้าของการออกแบบตึก Absolute Towers ใน Ontario

 

ในมหาวิทยาลัย Hong Kong Polytechnic University นักออกแบบ Zaha Hadid ได้มาออกแบบตึกสไตล์ออร์แกนิค โมเดิร์นนิสม์

 

โดดไปที่เมือง Peruvian Andes สถาปัตยกรรมของอินคาที่มีชื่อเสียงมากที่สุดก็คือหนีไม่พ้นมาชูปิกชู

 

นักโบราณคดีคาดว่าที่แห่งนี้สร้างในช่วงปี 1450

 

ลองมองในมุมใกล้ๆ ที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน

 

Parque Biblioteca España เปิดอย่างเป็นทางการในปี 2007 ในเมือง Medellín ประเทศโคลอมเบีย ออกแบบโดยสถาปนิกชื่อว่า Giancarlo Mazzanti ซึ่งตึกทั้ง 3 นี้มองไกลๆ แล้วจะเหมือนก้อนหิน

 

แต่ถ้ามาจากข้างในห้องสมุดออกมาข้างนอก จะเห็นวิวเมือง Medellín อย่างชัดเจน

 

Opera House ในเมืองซิดนีย์ก็เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของสถาปัตยกรรมแห่งออสเตรเลีย

 

ออกแบบโดยสถาปนิกชาวเดนมาร์กชื่อว่า Jørn Utzon เปิดให้ใช้ในปี 1973 ซึ่งจุดเด่นของมันก็คือการเล่นกับแสงราวกับว่ามันเป็นผ้าใบให้เราได้วาดรูปลงไปได้

 

และภายในนั้นก็งดงามไม่แพ้กัน

ที่มา businessinsider

Comments

Leave a Reply