“8 ท่าบริหารนิ้วมือ” นวดกดจุดแก้ปัญหาปวดเมื่อยร่างกาย ช่วยผ่อนคลายไปทั้งตัว

เป็นธรรมดาของมนุษย์อย่างเราทุกคนที่ต้องใช้นิ้วในการทำกิจกรรมต่างๆ อย่างหนักหน่วงไม่ว่าจะพิมพ์งาน หยิบถือสิ่งของ หรือใช้ทำอะไรก็แล้วแต่ มันจะทำให้เรารู้สึกเมื่อยล้าอยู่เสมอ

ดังนั้นเราจึงได้รวบรวม 8 ท่าการบริหารนิ้วมือ ที่จะมาสอนการดึงๆ นวดๆ กดจุดให้ผ่อนคลายและสบายกันไปถ้วนหน้า ว่าแล้วไม่รอช้าเราไปชมวิธีการบริหารนิ้วมือกันเลย

1. นวดหัวแม่มือ แก้อาการปวดหัว

ถ้าคุณเป็นที่มีอาการปวดหัวอยู่บ่อยๆ ไม่ว่าจะเรื่องงานหรือเรื่องแฟน คุณสามารถที่จะนวดที่หัวแม่มือเบาๆ ประมาณ 5 นาที แล้วอาการปวดหัวจะบรรเทาลงได้

2. กำนิ้วชี้เพื่อรักษาอาการปวดกล้ามเนื้อ

นิ้วชี้นั้นเป็นนิ้วที่ควบคุมอาการปวดกล้ามเนื้อ ความรู้สึกกลัวและความอาย โดยอ้างจากมหาวิทยาลัย Minnesota ที่ได้ทำการทดลองโดยใช้มือข้างหนึ่งจับนิ้วชิ้ของอีกข้างไว้ประมาณ 5 นาที จะทำให้ผู้ป่วยที่ปวดหลังและปวดกล้ามเนื้อรู้สึกดีขี้น

3. กดนิ้วกลางไว้ สงบสติอารมณ์

ในความจริงนั้นเมื่อคุณโกรธหรือโมโหคุณมักเลือกที่จะโชว์นิ้วกลางให้ใครบางคน แต่ผลการวิจัยนั้นกับบอกว่าเวลาที่คุณรู้สึกหงุดหงิดหรือเหนื่อย ลองกุมนิ้วกลางไว้ดูมันจะช่วยบรรเทาอาการต่างๆ เหล่านั้น เพราะการจับที่นิ้วกลางนั้นจะช่วยลดความดันโลหิตและทำให้คุณสงบลงนั่นเอง

4. นวดนิ้วนาง บรรเทาความเศร้า

ความเศร้าของคุณจะค่อยๆ หายไปเมื่อคุณนวดเบาๆ ที่นิ้วนางเป็นเวลา 5 นาที และกำหนดลมให้ใจของตัวเองด้วย

5. นิ้วก้อย เพิ่มพลังชีวิต

นิ้วก้อยนั้นรับผิดชอบในเรื่องของความเครียดและกังวลใจ หากคุณรู้สึกหมดหวังและมีแนวโน้มที่จะลดคุณค่าในตัวเอง ลองนวดนิ้วก้อยสัก 5 นาทีแล้วนึกถึงเรื่องราวดีๆ ไปด้วยสิ

6. นวดฝ่ามือ แก้คลื่นไส้อาเจียน

ใช้นิ้วมือข้างหนึ่งกดลงไปตรงกลางฝ่ามือ นวดๆ ให้เป็นวงกลมและสูดลมหายใจเข้าออกลึกๆ ประมาณ 3 ครั้ง เพราะฝ่ามือเป็นศูนย์รวมของอารมณ์และความรู้สึก ผลการวิจัยยังแสดงให้เห็นอีกว่าการนวดฝ่ามือเป็นประจำนั้นช่วยบรรเทาอาการคลื่นไส้ อาการเครียดและอาการอาเจียนได้

7. ประกบมือ ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือด

เราคงคุ้นๆ กับท่าพนมมือกันเป็นอย่างดี มันจะช่วยให้คุณมีสมาธิและเพิ่มการไหลเวียนของเลือดให้ดียิ่งขึ้น

8. ท่า Surya Mudra

ท่านี้จะช่วยเรื่องการย่อยอาหารและการเผาผลาญอาหารของคุณ เทคนิคนี้ยังใช้สำหรับอุณหภูมิของเลือดต่ำอีกด้วย

ถ้าอยากรู้ว่าท่าต่างๆ เหล่านี้มันช่วยได้จริงหรือเปล่า

ก็ต้องลองไปทำตามกันดูนะจ๊ะ

ที่มา brightside