เอาหน่า เรื่องธรรมชาติ… 11 วิธีการมี ‘เซ็กส์’ ของเหล่าสัตว์โลก สารพัดความพิศดารทั้งนั้น!!

ว่าด้วยเรื่องของ ‘เซ็กส์’ นั้นเป็นเรื่องของธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือสัตว์ต่างก็ต้องมีเซ็กส์เพื่อเป็นการดำรงเผ่าพันธุ์กันทั้งนั้น

สำหรับมนุษย์อย่างเราๆ ก็จะรู้กันดีว่าการมีเพศสัมพันธ์นั้นจะมีวิธีการอย่างไรบ้าง แต่สำหรับเหล่าสัตว์ทั้งหลายจะมีวิธีการที่เหมือนกันกับมนุษย์หรือไม่นะ?

สำหรับวันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปชมเรื่องราวน่ารู้เกี่ยวกับวิธีการสืบพันธุ์ของสัตว์ต่างๆ ที่มันช่างแปลกซะเหลือเกิน จะเป็นอย่างไรบ้างลองไปชมพร้อมๆ กันได้เลยจ้า…

 

1. นกตัวผู้ไม่มีกระปู๋!?

นกตัวผู้ส่วนใหญ่จะมีทวารร่วม (เป็นช่องเปิดร่วมกันของระบบขับถ่ายของเสียทั้งปัสสาวะ อุจจาระ และน้ำอสุจิใช้ช่องนี้ช่องเดียวหมดเลย) แทนที่จะมีอวัยวะเพศเป็นรูปแบบภายนอกคล้ายกับมนุษย์และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดอื่นๆ

เมื่อนกตัวผู้รู้สึกปึ๋งปั๋งก็จะมีน้ำอสุจิไหลออกมาจากช่องทวารร่วม และเมื่อถึงเวลาผสมพันธุ์ นกตัวผู้จะขึ้นไปอยู่ด้านบนของตัวเมียจัดท่าทางและฉีดน้ำอสุจิเข้าไปในช่องทวารร่วมของนกตัวเมีย น้ำอสุจิก็จะเข้าไปทำการปฏิสนธิกับไข่ที่อยู่ในรังไข่ของนกตัวเมียจนเกิดเป็นไข่ในที่สุด

 

2. ผึ้งตัวผู้นับพันตัวจะรุมผึ้งราชินีในครั้งเดียว จากนั้นผึ้งตัวผู้ทั้งหมดก็จะตายหลังจากผสมพันธุ์ได้ไม่นาน

หน้าที่ของเหล่าผึ้งตัวผู้นั้นมีเพียงอย่างเดียวก็คือการผสมพันธุ์กับผึ้งนางพญา เมื่อเธอพร้อมที่จะผสมพันธุ์แล้วก็จะบินออกไปสู่สถานที่สำหรับผสมพันธุ์ จากนั้นผึ้งเพศผู้นับพันตัวก็จะบินกรูเข้ามาล้อมรอบตัวของนางพญาเพื่อทำการผสมพันธุ์

เหล่าผึ้งตัวผู้แต่ละตัวจะมีโอกาสในการเสพสมร่วมกับนางพญาเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น พอเสร็จสมอารมณ์หมายมันก็จะร่วงลงสู่พื้นและตายไป

แต่น่าเศร้าที่นางพญาผึ้งจะสามารถมีเซ็กส์ได้กับผึ้งเพศผู้เพียงครั้งละ 12 – 14 ตัวเท่านั้น จากนั้นเธอก็จะเก็บสะสมน้ำอสุจิเอาไว้เพื่อนำไปใช้ผสมไข่เมื่อต้องการ เท่ากับว่าตลอดชีวิตเธอจะมีเซ็กส์เพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น

อย่างไรก็ตามไข่ที่ผสมแล้วจะฟักออกมาเป็นผึ้งเพศเมียเท่านั้น และผึ้งเพศผู้จะเกิดมาจากไข่ที่ยังไม่ได้ทำการผสมน้ำอสุจิเข้าไป นั่นหมายความว่าผึ้งเพศผู้เป็นผึ้งกำพร้ามาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว

 

3. หอยทากจะทำการ ‘แผลงศรแห่งความรัก’ ใส่กันเพื่อผสมพันธุ์

หอยทากส่วนใหญ่จะมีอวัยวะเพศทั้งของชายและหญิงอยู่ (แต่ไม่ใช่ทุกตัว) เพราะฉะนั้นเรื่องของเพศเกี่ยวกับพวกมันจะเป็นอะไรที่ซับซ้อนมาก

พวกมันมีอวัยวะเพศเป็นลักษณะแบบรูเล็กๆ หลายรูคล้ายรูขุมขน เมื่อจะทำการผสมพันธุ์กันหอยทากทั้งสองตัวจะค่อยๆ คืบคลานเข้ามากอดรัดกันอย่างนุ่มนวล

จากนั้นก็จะเริ่มแผลงศรแห่งความรักที่เป็นเข็มเล็กๆ ที่มีสถานะเป็นแคลเซียมใส่กัน น่าแปลกใจมากที่เจ้าลูกศรแห่งความรักนี้แหลมคมมากจนสามารถสร้างความเสียหายให้กับอวัยวะภายในได้เลย

และถ้าหากว่าไม่มีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดเสียชีวิตจากการร่วมรักอันแสนโหดในครั้งนี้ ก็แสดงว่าเจ้าหอยทากทั้งสองตัวได้ทำการส่งน้ำอสุจิไปยังอีกฝั่งได้สำเร็จ

ดังที่กล่าวไปแล้วว่าหอยทาก ‘ส่วนใหญ่’ นั้นมีอวัยวะเพศทั้งของหญิงและชาย เพราะฉะนั้นอาจจะเกิดกรณีที่ฝ่ายหนึ่งเสี่ยงชีวิตฟรีแต่ไม่ได้รับการผสมไข่ก็เป็นได้

 

4. งูการ์เตอร์มักจะผสมพันธุ์กัน ในลักษณะของลูกบอลขนาดยักษ์

งูการ์เตอร์ตัวเมียจะออกจากการจำศีลทีหลังงูตัวผู้ เมื่องูตัวเมียลืมตาตื่นขึ้นเหล่างูตัวผู้ก็จะเลื้อยมารุมล้อมรอบๆ ตัวเธอจนกลายเป็นลูกบอลขึ้นมา

งูตัวผู้ประมาณ 12 ตัวจะมีเซ็กส์กับตัวเมีย 1 ตัว ซึ่งเหล่างูตัวผู้นั้นจะมีความกระหายเป็นอย่างมากจนถึงกับมีการหลั่งฟีโรโมนออกมาเพื่อล่องูตัวผู้อื่นๆ ให้ห่างจากงูตัวเมียที่หมายปอง

และงูตัวเมียก็พยายามที่จะหนีออกมาจากการนัวเนีย เมื่อเป็นเช่นนั้นงูตัวผู้ก็จะทำการหลั่งสารที่ทำให้งูตัวเมียเกิดอาการเครียดและตื่นเต้น เพื่อทำให้ช่องทวารร่วมของเธอเปิดออกและทำให้งูตัวผู้สามารถผสมพันธุ์ได้

 

5. โลมาสามารถมีเซ็กส์ได้กับทั้งชายและหญิง (เสือไบ)

โลมาปากขวดนั้นจะอาศัยอยู่ร่วมกันเป็นกลุ่มแบบชายล้วน จึงทำให้เกิดรสนิยมรักร่วมเพศขึ้นมา บางครั้งพวกมันก็จะสร้างความสัมพันธ์ที่ลึกล้ำจนถึงขั้นมีเซ็กส์ด้วยกันเลยทีเดียว

เช่นเดียวกันกับมนุษย์ โลมามีเซ็กส์เพื่อสนองต่อความใคร่ของตนเอง ไม่ได้มีเพื่อสืบพันธุ์เหมือนกับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดอื่นๆ

และบางครั้งพฤติกรรมของมันก็ดูน่ากลัวสุดๆ กลุ่มของโลมาเพศผู้จะทำการออกล่าโลมาเพศเมียเพื่อมีเซ็กส์ด้วย และถ้าหากพยายามว่ายน้ำหนีพวกโลมาตัวผู้ก็จะบังคับใช้กำลัง จับพลิกท้อง, ตบด้วยครีบ, หรือใช้ฟันกัด เพื่อทำให้ยอมจำนน

 

6. ทากกล้วยเป็นสัตว์ที่มีสองเพศอยู่ในตัวเดียว มีความยาวของอวัยวะเพศพอๆ กับความยาวของลำตัว และจะถูกตัดทิ้งหลังจากที่เสร็จกิจแล้ว

พิธีกรรมในการผสมพันธุ์ของทากกล้วยจะเริ่มจากการฉีดของเมือกเหลวที่มีฟีโรโมนทิ้งเอาไว้ เพื่อบอกให้ทากตัวอื่นๆ รู้ว่ามันพร้อมที่จะผสมพันธุ์แล้ว

จากนั้นก็จะมีทากที่สนใจมาเข้าร่วมพิธีกรรมด้วยการกินน้ำเมือกนั้นเข้าไป เมื่อทากทั้งสองตัวได้มาเจอะเจอกันพวกมันก็จะทำการสอดใส่อวัยวะเพศที่มีความยาวเท่ากับขนาดตัวเข้าไปในตัวของกันและกันจากนั้นก็จะตัดออกหลังจากเสร็จกิจ

 

7. ตัวเรือดเพศผู้ จะทำการแทงอวัยวะเพศเข้าไปในร่างของเพศเมีย จากนั้นก็ฉีดอสุจิเข้าไป

อวัยวะเพศของตัวเรือดเพศผู้จะมีลักษณะคล้ายกับดาบ มันจะใช้เจ้าดาบนี้แทงเข้าที่ท้องของเพศเมียจากนั้นก็จะปล่อยน้ำอสุจิเข้าไปในระบบหมุนเวียนโลหิตของเหยื่อ (ตัวเรือดที่เป็นคู่รัก) ทำให้มันเสียชีวิตทันที นั่นหมายความว่าตัวเรือดรุ่นลูกทุกตัวจะไม่เคยเห็นหน้าแม่ของตัวเองเลย

 

8. ตั๊กแตนตำข้าวตัวเมียจะทำการกัดแทะหัวของตัวผู้ หลังจากมีเซ็กส์กันเสร็จเรียบร้อยแล้ว หรือบางครั้งก็ทำในระหว่างมีเซ็กส์กันเลย

ในตอนแรกนั้นตัวผู้จะทำการเต้นรำเพื่อสร้างความประทับใจให้กับตัวเมีย และเมื่อตัวเมียเกิดถูกใจขึ้นมาก็จะยอมให้เจ้าตัวผู้ตัวนั้นมาผสมพันธุ์กับเธอ แต่ถ้าไม่ถูกใจเธอจะทำการตัดหัวของตัวผู้ทิ้งในทันที!!

ตัวผู้ทั้งหลายจะไม่สามารถบินออกไปสู่โลกกว้างได้หากไม่ผ่านด่านนี้ซะก่อน ราวๆ 5-31% จากการผสมพันธุ์ของเหล่าตั๊กแตนตำข้าว ตัวเมียจะตัดหัวตัวผู้ทิ้งหลังจากที่ทำการผสมพันธุ์เรียบร้อยแล้ว หรือบางครั้งก็ทำตอนระหว่างที่กำลังระเริงรักกันอยู่

ส่วนที่เหลืออีกกว่า 69% ตัวผู้สามารถบินหนีไปได้ ก่อนที่จะถูกแทะหัวออกมาจนหมด…

 

9. Antechinus สิ่งมีชีวิตที่คล้ายหนู มีกระเป๋าหน้าท้องขนาดเล็ก อาศัยอยู่ในประเทศออสเตรเลีย พวกมันจะมีเซ็กส์กันทุกวันยาวนานติดกันหลายสัปดาห์ จนเสียชีวิตเพราะความอ่อนเพลีย

เมื่อเข้าสู่ฤดูผสมพันธุ์ ภายในร่างกายของ Antechinus ตัวผู้จะเต็มไปด้วยฮอร์โมนพลุ่งพล่าน เปลี่ยนให้กลายเป็นเครื่องจักรสำหรับสืบพันธุ์ ระบบภูมิคุ้มกันต่างๆ จะหยุดลงโดยสิ้นเชิง พลังงานทั้งหมดที่สะสมอยู่ในร่างกายจะถูกนำไปใช้เพื่อการสืบพันธุ์

เจ้าสัตว์ฟันแทะผู้หื่นกามเหล่านี้ ถูกขับเคลื่อนด้วยฮอร์โมนและมีจุดมุ่งหมายเพียงอย่างเดียว นั่นก็คือการมีเซ็กส์กับตัวเมียทุกตัวที่มีอยู่ในโลก

มันจะไม่หยุดเพื่อพักผ่อน นอนหลับ หรือกินอะไรเลย และมีจะมีชีวิตที่เหลืออยู่ทั้งหมดเพื่อการมีเซ็กส์เพียงอย่างเดียว ซึ่งในบางครั้งอาจจะกินเวลายาวนานถึง 12 ชั่วโมงต่อหนึ่งครั้ง

หลังจากที่ฤดูกาลผสมพันธุ์สิ้นสุดลง หน้าที่ของเหล่ากองทัพฟ้าเหลืองได้สิ้นสุดลงแล้ว พลังชีวิตทั้งหมดในร่างกายของพวกมันได้หมดลงไปกับปาร์ตี้เซ็กส์หมู่อันหฤโหด

เหล่าตัวผู้ที่เต็มไปด้วยการติดเชื้อ เลือดออก ขนร่วง แผลเน่าเฟะ อันเป็นผลพวงมาจากภูมิคุ้มกันที่หยุดลง ในที่สุดก็จะพากันล้มตายลง

หลังจากนั้น ตัวเมียก็จะตกไข่ออกมาจากรังไข่ ผสมกับสเปิร์มที่เก็บเอาไว้จากตัวผู้ผู้เสียสละ และไม่นานก็จะเป็นแม่ให้กับลูกน้อย 4-10 ตัว ที่เกาะและคอยดูดนมจากหน้าท้องของแม่

 

10. แทนที่จะมีหรรม หมึกจะมีหนวด 1 เส้นที่ทำหน้าที่เป็นตัวปล่อยน้ำอสุจิ

หมึกตัวผู้จะมีหนวด 1 เส้นที่มีลักษณะเป็นพิเศษและจะใช้มันลำเลียงน้ำอสุจิเข้าไปในร่างกายของตัวเมีย แลเมื่อได้รับน้ำอสุจิเข้าไปแล้วตัวเมียก็จะเก็บกักเอาไว้จนถึงเวลาที่จะวางไข่

เช่นเดียวกับตั๊กแตนตำข้าว หมึกเพศเมียจะมีรสนิยมในการกินเนื้อหมึกด้วยกันเอง โดยเฉพาะช่วงฤดูผสมพันธุ์ และการที่มีหนวดพิเศษทำให้หมึกตัวผู้สามารถมีเซ็กส์ในระยะไกลได้ ทำให้มันสามารถหนีจากตัวเมียที่ดุร้ายหลังจากเสร็จสิ้นกิจกามได้อย่างทันท่วงที

 

11. หอยงวงช้างกระดาษ (ปลาหมึกสายพันธุ์หนึ่ง) ไม่ได้มีเพียงแค่ ‘หนวดพิเศษ’ เท่านั้นแต่มันสามารถแยกออกมาได้ด้วย!?

หอยงวงช้างกระดาษตัวเมีย จะมีขนาดใหญ่มากกว่าตัวผู้ประมาณ 20 เท่า แถมยังมีกระดองเอาไว้เพื่อป้องกันตัวเองอีกด้วย

ตัวผู้เมื่อโตเต็มที่จะมีความยาวเพียงแค่ 1.25 เซนติเมตรเท่านั้น เมื่อถึงเวลาผสมพันธุ์มันจะยิงหนวดที่บรรจุด้วยน้ำอสุจิเข้าไปในกระดองของตัวเมีย และตัวเมียก็จะเก็บกักน้ำอสุจิเอาไว้จนกว่าจะถึงเวลาที่เธอตกไข่ จากนั้นก็จะนำน้ำอสุจิไปผสมกับไข่ต่อไป

 

ต้องขอบอกเลยว่าแต่ละตัวนี่ช่างมีกิจกรรมทางเพศที่โคตะระพิศดารจริงๆ หากใครว่าท่าเฮลิคอปเตอร์ว่ายากแล้ว เจอสัตว์พวกนี้เข้าไปต้องชิดซ้ายไปเลยล่ะ

ที่มา : buzzfeed

Comments

Leave a Reply