ย้อนเวลาชมภาพนคร “ซานฟรานซิสโก” ตั้งแต่อดีตยันปัจจุบัน ช่างแตกต่างกันเหลือเกิน

“ซานฟรานซิสโก” เป็นเมืองในรัฐแคลิฟอร์เนียของประเทศสหรัฐอเมริกา ที่มีความทันสมัยและก็เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง เช่น สะพานโกลเดนเกต หรือเกาะอัลคาทราซ ที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดี

วันนี้ #เหมียวหน่า จะพาเพื่อนๆ ไปชมวิวัฒนาการของ “ซานฟรานซิสโก” ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันกันเลย ดูสิว่ามันมีรูปร่างหน้าตาเปลี่ยนไปมากขนาดไหน

 

ก่อนที่ซานฟรานซิสโกจะกลายเป็นศูนย์กลางของเทคโนโลยีที่ทันสมัย ใครจะไปรู้ว่าในสมัยอดีตนั้นกลับเคยถูกปกคลุมด้วยเนินทรายมาก่อน

 

ก่อนที่ซานฟรานซิสโกจะมีผู้คนมาอาศัยอยู่แบบทุกวันนี้ เมื่อประมาณ 3,000 ปีก่อนคริสตกาล มีชนเผ่าที่ชื่อว่า Yelamu ซึ่งเป็นชนเผ่าแรกเริ่มที่มาพำนักอาศัยอยู่ก่อน โดยปัจจุบันหลงเหลือเพียง 150-300 คนเท่านั้นที่ยังอาศัยอยู่ในซานฟรานซิสโก

 

กลุ่มนักสำรวจชาวสเปนนำโดย Don Gaspar de Portolà เดินทางมาถึงซานฟรานซิสโกในปี 1769 และเป็นครั้งแรกที่ชาวยุโรปมาเยือนอ่าวซานฟรานซิสโก

 

นี่คือภาพในอดีตที่แสดงให้เห็นถึงพิ้นที่เนินทรายที่ทอดยาวกว้างใหญ่ประมาณ 11 กิโลเมตรจากทางตะวันออกไปทางตะวันตก

 

นี่เป็นอีกรูปถ่ายของเนินทรายในต้นศตวรรษที่ 20 ซึ่งในปัจจุบันก็ได้กลายเป็น Golden Gate Park ที่มีขนาดกว่า 4 ตารางกิโลเมตร

 

ผู้ตั้งถิ่นฐานชาวสเปนได้ก่อตั้งกองทหารรักษาการณ์ของซานฟรานซิสโกในชื่อ “Royal Fortress of Saint Francis” ในปี 1776

 

ภาพนี้ถูกถ่ายในปี 1863 เป็นเศษซากของโบสถ์คาทอลิคที่เก่าแก่ที่สุด ถูกสร้างขึ้นด้วยวัสดุที่ไม่ค่อยดีนัก ทั้งที่เกิดแผ่นดินไหวอยู่บ่อยครั้ง

 

นี่เป็นภาพพื้นที่ที่อยู่ภายใต้การปกครองของสเปนจนกระทั่งในปี 1821 มันได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของประเทศเม็กซิโกไปแล้ว

 

ในปี 1835 ผู้ประกอบการชาวอังกฤษ William Richardson ได้ก่อตั้งบ้านอยู่ใกล้ๆ กับ Portsmouth Square ที่เป็นย่านไชน่าทาวน์ในซานฟรานซิสโกนั่นเอง

 

ต่อมาในปีเดียวกัน Richardson และ Alcalde Francisco de Haro ทหารชาวเม็กซิกันได้วางผังเมืองเมืองขนาดใหญ่ตั้งชื่อว่า Yerba Buena (ซึ่งแปลว่า Good Herb ในภาษาสเปน)

หลังจากที่มีพืชพื้นเมืองชนิดหนึ่งที่มีกลิ่นหอมเข้ามาในพื้นที่ ชาวอเมริกันก็เริ่มเข้ามาตั้งถิ่นฐานกันมากขึ้น

 

ทศวรรษต่อมา Yerba Buena มีประชากรเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า ซึ่งมีจำนวนเกือบ 1,000 คนและได้เปลี่ยนชื่อเมืองเป็นเมืองซานฟรานซิสโก

 

ในปี 1849 ซานฟรานซิสโกได้กลายเป็นศูนย์กลางการค้าทางทะเลเนื่องจากมีการพบทองคำ มีการตื่นทองของนักแสวงหาโชคหรือที่เรียกว่า California Gold Rush

 

แต่ในปี 1906 ได้เกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่และไฟไหม้ทำลายล้างเมือง นี่เป็นรูปซากปรักหักพังของศาลาว่าการของซานฟรานซิสโก

 

แต่ในอีกไม่กี่ทศวรรษต่อมา ซานฟรานซิสโกได้สร้างตัวเองขึ้นใหม่…

 

และมีจำนวนประชากรที่มากขึ้นตามไปด้วย…

 

นี่เป็นภาพการสร้างสะพาน Golden Gate ที่ยาวกว่า 2.7 กิโลเมตรในปี 1933

 

ตลอดช่วงแรกของศตวรรษที่ 20 เมืองสร้างโครงสร้างพื้นฐานขึ้น และนี่คือภาพถ่ายในปี 1945 ของถนนที่มีรถรางวิ่งซึ่งเก่าแก่ที่สุดในเมือง ถนนนี้เปิดตัวในปี 1873

 

วงดนตรีร็อกอเมริกัน “The Grateful Dead” โพสท่าสุดเท่ในซานฟรานซิสโกในราวๆ ปี ค.ศ. 1960

 

อ่าวซานฟรานซิสโกที่สวยงามทำให้ประชากรเพิ่มมากขึ้น

 

และในปัจจุบันเมืองซานฟรานซิสโกมีประชากรมากกว่า 800,000 คน

 

ถ้ามีโอกาสเพื่อนๆ ต้องลองไปเที่ยวสักครั้งให้ได้เลยนะ

ที่มา: businessinsider

Comments

Leave a Reply