รู้จักกับ 7 บุคคล ‘ผู้โกงความตาย’ ที่สามารถเอาชีวิตรอดมาได้อย่างน่าเหลือเชื่อ!!?

เคยดูหนังเรื่อง ‘Final Destination’ กันไหม? เนื้อเรื่องเกี่ยวกับสิ่งเล้นรับบางอย่าง ที่ดูเหมือนพยายามจะพรากชีวิตของเรา ซึ่งก็เป็นหน้าที่ของพระเอก นางเอก ในหนังนั่นแหละ ที่ต้องหาวิธีการโกงความตาย ไม่ให้ตัวเองจากโลกนี้ไปไวเกินไป

แต่ไม่น่าเชื่อว่าที่ผ่านมา โลกของเราก็มีเหตุการณ์ ‘โกงความตาย’ อยู่เหมือนกัน เพราะ 7 บุคคลที่เรานำมาเสนอนี้ พวกเค้าสามารถเอาชีวิตรอดจากเหตุการณ์ที่ตัวเองต้องประสบพบเจอมาได้ราวกับว่าหยิบยืมปาฏิหาริย์มาใช้ได้ยังไงยังงั้น

 

1. Ben Nyaumbe ชายผู้รอดจากงูเหลือมยาว 4 เมตร

เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นที่เมือง Malindi ประเทศเคนย่า เมื่อเย็นวันหนึ่งนาย Ben กำลังกลับจากการทำงาน เจ้าตัวก็ดันไปเหยียบใส่บางสิ่งบางอย่างเข้า นั่นก็คืองูเหลือมขนาดยักษ์นั่นเอง

ทันใดนั้นเจ้างูเหลือมก็ทำการจู่โจม เลื้อยมาพันร่างกายของเขาทันที แต่โชคดีที่ Ben ไหวตัวทัน เขาได้ทำการกัดไปที่หางของงู และรีบเอาเสื้อผ้ามาปกคลุมส่วนใบหน้าของตัวเอง ทั้งหมดต้องใช้เวลานานถึง 3 ชั่วโมงไปกับการเอาตัวรอดในครั้งนี้

 

2. Todd Orr ผู้รอดจากการถูกหมีโจมตีถึง 2 ครั้ง

วันหนึ่ง Orr ออกไปเดินป่าตามปกติเช่นเคย ในรัฐมอนแทนา เจ้าตัวดันไปเจอกับหมีแม่ลูก ครั้งแรกเจ้าหมีตัวแม่พยายามจะวิ่งเข้ามาทำร้ายเขา เจ้าตัวเสียหลักถูกหมีตบชนล้มหลง ก่อนจะพยายามฉีดสเปรย์เพื่อไล่หมีออกไปได้

หลังจากที่เจ้าตัวรีบกลับมาที่รถ จู่ๆเขาก็เหลือบไปเห็นหมีตัวแม่มันตามเขามาอีกครั้ง คราวนี้เขาถูกกัดเข้าอย่างจังที่แขน และหัว ก่อนที่แม่หมีจะปล่อยให้เขานอนจมกองเลือดอยู่ตรงนั้น เพราะอาจคิดว่าเขาได้ตายไปแล้ว แต่น่าทึ่งที่เจ้าตัวยังสามารถลุกขึ้นมา ขับรถ และพาตัวเองไปโรงพยาบาลได้สำเร็จ

 

3. John Colter ฉายามนุษย์ภูเขา

Colter เป็นหนึ่งในทีมนักสำรวจ ในระหว่างที่เขาและทีมนักสำรวจกำลังพายเรือแคนูล่องไปในแม่น้ำเจฟเฟอร์สัน ในรัฐมอนทาน่า พวกเขากลับถูกชนเผ่าอินเดียแดงพื้นเมือง ‘Blackfeet’ โจมตีโดยไม่ทันได้รู้ตัว

เพื่อนของ Colter ทุกคนถูกฆาตกรรม ยกเว้นแต่เจ้าตัวที่ถูกปล้นทุกอย่างจนเหลือเพียงตัวเปล่า และต้องรีบหนีออกมาให้พ้นจากการไล่ล่าของชนเผ่าพื้นเมือง เขาต้องใช้เวลาหลบหนีอยู่ในป่านานถึง 11 วัน จนไปเจอหมู่บ้านใจดีแห่งหนึ่งที่ช่วยชีวิตเขาไว้

 

4. Slavomir Rawicz กับการเดินทางสู่อิสรภาพ

ในปี 1940 กองทหารของโปแลนด์ที่เข้าไปปฏิบัติหน้าที่ในสหภาพโซเวียต ถูกทหารโซเวียตจับเป็นเชลยศึกทั้งหมด หลังพ่ายแพ้ให้กับสงคราม แต่ทว่าในจำนวนทหารที่ถูกจับไปนั้น มี 6 คนที่สามารถหลบหนีออกมาได้ แต่การจะเอาชีวิตรอดท่ามกลางธรรมชาติอันโหดร้ายนั้น ดูเหมือนจะยากยิ่งกว่า

พวกเขาต้องใช้เวลานานนับปี เดินทางด้วยเท้าเปล่าผ่านเส้นทางป่าไซบีเรีย ทะเลทรายโกบี และภูเขาหิมาลัย ซึ่งทั้งหมดรวมเป็นระยะทางไกลกว่า 6,500 กิโลเมตร กว่าจะมาถึงที่ประเทศอินเดียได้ ซึ่งท้ายที่สุดแล้ว มีเพียงแค่ 3 คนเท่านั้น ที่สามารถรอดชีวิตกลับมาได้

 

5. Anna Bågenholm รอดชีวิตจากนรกน้ำแข็งทั้งเป็น

ในปี 1999 Anna คือหนึ่งในนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปเล่นสกี ณ ประเทศนอร์เวย์ แต่กลับเกิดอุบัติเหตุบางอย่าง ทำให้เธอพลัดตกลงไปในหลุมที่มีน้ำเย็นจัด เมื่อตกลงไปเธอก็พบว่าตัวเองติดอยู่กับผิวน้ำแข็งที่เกาะตัวกันอย่างแน่น จนไม่สามารถขึ้นมาด้วยตัวเองได้

ร่างกายของเธอต้องเผชิญกับสภาวะอุณหภูมิที่ต่ำลงมากกว่าปกติ ระบบการทำงานในร่างกายเธอเริ่มไม่ปกติ เธอไม่สามารถที่จะขยับเขยื้อนอวัยวะตามที่ต้องการได้ ทีมแพทย์ และหน่วยกู้ภัยกว่า 100 ชีวิต ต้องใช้เวลานานถึง 9 ชั่วโมง กว่าจะสามารถช่วยเธอออกมาได้ 10 วันต่อมาเธอตื่นขึ้นมาที่โรงพยาบาล และพบว่าตัวเองรอดตาย แต่ทว่าระบบประสาท และกล้ามเนื้อบางส่วน กลับไม่เป็นปกติดังเดิมอีกต่อไป…

 

6. Harrison Okene ชายผู้รอดจากเรือล่ม

Okene หนึ่งในลูกเรือที่ออกเดินทางมาจากอ่าวของประเทศไนจีเรีย แต่ทว่ากลับเกิดเหตุการณ์เรือล่ม ลูกเรือทั้ง 11 คน เสียชีวิต แต่เจ้าตัวสามารถเอาชีวิตรอดมาได้นานถึง 3 วันที่ต้องลอยอยู่กลางทะเล จนในที่สุดก็มีทีมนักดำน้ำจาก ‘DCN Global’ มาเจอเข้า และได้ทำการช่วยเหลือในเวลาต่อมา

 

7. Mauro Prosperi ผู้ติดอยู่ท่ามกลางพายุทะเลทราย

Mauro เป็นหนึ่งในผู้เข้าแข่งขันรายการวิ่งมาราธอนกลางทราย จัดขึ้นที่ประเทศโมร็อกโก เมื่อปี 1994 ในระหว่างการวิ่งนั้นเอง จู่ๆก็เกิดเหตุพายุทะเลทราย ทำให้เจ้าตัวเกิดอาการงุนงง และวิ่งออกนอกเส้นทางที่ได้กำหนดไว้ให้

เป็นเวลายาวนานถึง 9 วันที่เขาต้องดื่มปัสสาวะ เลือด และค้างคาว เพื่อเอาชีวิตรอดกลางทะเลทรายให้ได้ จนในที่สุด เขาก็ได้มาเจอกับกองทหารของประเทศแอลจีเรีย เจ้าตัวสูญเสียน้ำหนักร่างกายไป 17.5 กิโลฯ และออกนอกเส้นทางมาไกลถึง 300 กิโลฯ

 

เหตุการณ์ที่แต่ละคนพบเจอมา แทบไม่น่าเชื่อเลยนะว่าพวกเขาจะสามารถรอดกลับมาได้ แบบนี้เรียกว่า โกงความตาย ได้มั้ยนะ?

ที่มา: Lifebuzz

Comments

Leave a Reply