สำหรับศิลปินแล้ว ไม่ว่าเขาจะอยู่ส่วนไหนในโลก หรือจะต้องตกอยู่ในสถานการณ์แบบใด พวกเขาก็มักที่จะระบายความรู้สึก หรือถ่ายทอดเรื่องราวเหตุการณ์ในตอนนั้นๆออกมาได้เสมอ
เช่นเดียวกับภาพวาดสเก็ตมือของนายทหาร Victor Ludy ผู้มีเป้าหมายในชีวิตอยากจะเป็นสถาปนิก แต่ทว่าในช่วงอายุ 21 ปี เขาต้องถูกเกณฑ์ทหารและได้ออกสู่หน่วยรบในสงครามโลกครั้งที่ 2
และด้วยความอัดอั้นตันใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสงคราม ทำให้เขาตัดสินใจที่จะวาดภาพด้วยดินสอที่ดูเรียบง่าย แต่แฝงไปด้วยความจริงที่ต้องพบเจอทุกวัน เราตามไปดูกันเลยดีกว่า…
Victor Ludy ปัจจุบันเขาอายุ 92 ปี และใช้ช่วงชีวิตวัยเกษียณอยู่ที่นิวยอร์ค

กำแพงแห่งแอตแลนติก แนวป้องกันการบุกที่ถูกสร้างโดยทหารเยอรมัน มีนายทหาร 6 คนบาดเจ็บ และอีก 6 คนเสียชีวิต วันที่ 21 กันยายน 1944

ระหว่างเส้นทางไปสู่ยุโรป 2 กันยายน 1944

สัมภาระของ Bill Shepard เพื่อนทหารคนหนึ่ง

พลทหาร Pat และปืน 60 mm. ของเขา กำลังจะไปเผชิญหน้ากับกองทหารเยอรมัน 1 พฤศจิกายน 1944

กลุ่มเครื่องบินรบของกองทัพฝรั่งเศส กำลังบินอยู่เหนือเยอรมัน “ตอนนั้นพวกเราต้องปีนเขาขึ้นไป และได้เห็นกับเครื่องบินรบนี้พอดี ส่วนเพื่อนทหารคนอื่นๆก็ตะโกนเชียร์กันยกใหญ่”

วันอาทิตย์ กับการได้พักผ่อนสบายๆ 14 พฤษภาคม 1944

‘Kentucky’ พลทหารปืนไฟ “เขาเป็นคนที่ยิงแม่นมาก แถมยังชอบร้องเพลงให้พวกเราฟัง แต่สุดท้ายเขาก็ไม่สามารถกลับบ้านมาพร้อมพวกเราได้”

ก่อนวันเงินเดือนออก พวกเรากำลังเล่นพนันแลกบุหรี่กันอยู่ 1 มิถุนายน 1944

1 ใน 4 พลทหารลาดตระเวณของฝ่ายเยอรมัน เสียดายที่เขาไม่ได้กลับบ้านอีกครั้ง

‘บ้านแสนสุข’ 1 มิถุนายน 1944

วิวจากด้านในบังเกอร์ของ Ludy เอง

ร้านคาเฟ่ในเมือง Quinéville ที่ๆมีสาวฝรั่งเศส 2 คน ซื้อเหล้าแอปเปิ้ลมาให้พวกเรา

พลทหาร Shep

เพื่อนทหาร Ted Lynn

บ้านหลังนี้ ที่ๆ Ludy และ Kane ได้รับการดูแลอย่างดีด้วยไก่อบ และบรั่นดี

ที่ซุ่มโจมตีของทหารเยอรมัน ตั้งอยู่บนชายหาดของเมือง Quinéville

ระหว่างทางไปยุโรป “ผมจำได้ว่าขึ้นมาบนเรือ เห็นทั้ง 3 คนนี้เป็นภาพแรก และพวกเขาต่างก็บ่นเป็นเสียงเดียวกันว่า.. Son of a Bitch!!” 27 สิงหาคม 1944

รถไฟขนส่งพลทหาร

สถานที่ๆชื่อว่า ‘Bourg de Lestre’

ก่อนที่เราจะได้ลงจากเรือ และพร้อมวิ่งเข้าสู่อ่าว 7 กันยายน 1944

ปัจจุบันสมุดภาพนี้ ถูกเก็บไว้ที่ หอสมุดรัฐสภาแห่งประเทศสหรัฐฯ

เป็นอีกแง่มุมหนึ่งที่เราคงไม่มีโอกาสได้เห็น ถ้าหากว่าคนที่อยู่ในเหตุการณ์เค้าไม่นำมาบอกเล่าด้วยตัวเอง สุดท้ายก็หวังว่า อย่าให้มีสงครามแบบนี้อีกเลยเนาะ ^ ^

ที่มา: Mymodernmet

Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.