16 ภาพถ่ายจากดาวเทียม เผยภาวะอันสวยงามและบอบบาง ของธรรมชาติบนโลกเรา…

ภาพถ่ายจากบนอากาศ ไม่ว่าเราจะถ่ายที่ไหนยังไงมันออกมาสวยเสมอ เพราะเป็นมุมที่ในชีวิตประจำวันเราคงไม่ได้เห็นแน่ๆ นอกจากจะเป็นนกอ่ะนะ

แต่ภาพถ่ายทั้งหมดนี้แตกต่างออกไป ด้วยความสูงกว่า 30,000 ฟุต จากพื้นโลก ช่างภาพ Benjamin Great จะพาเราไปชมความสวยงามบนอุตสาหกรรมที่กำลังส่งผลเสียต่อดาวโลกของเราอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ซึ่งทั้งหมดเกิดขึ้นโดยบังเอิญ เพราะวันหนึ่งเขากำลังท่องไปในโปรแกรมแผนที่โลก และต้องการที่จะซูมหาหลังคาบ้านตัวเอง แต่ดั๊นไปซูมออก แล้วดันได้ภาพเหล่านี้

“มองจากบนจุดนั้น คุณจะได้เห็นมันสะท้อนมาทั้งความสวยงาม และ ความบอบบางของธรรมชาติ”

 

เหมืองสินแร่ดิบ Mount Whaleback

ตั้งอยู่ในเมือง Pilbara แถบตะวันตกของออสเตรเลีย 98% ของสินแร่ดิบ ถูกนำไปใช้ในงานก่อสร้าง อุตสาหกรรมมือถือ หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆอย่างเช่นตู้เย็น

1

 

เหมืองยูเรเนียม Alrit

ตั้งอยู่ในเมือง Alrit ประเทศไนจีเรีย ที่นี่สามารถสกัดแร่ยูเรเนียมได้มากถึง 3,400 ตัน ต่อปี และส่วนใหญ่จะถูกนำไปใช้ในการทดลองนิวเคลียร์ของฝรั่งเศส รวมถึงวิทยาการด้านอาวุธต่างๆอีกด้วย

2

 

สถานีขนส่งถ่านหิน Qinghuangdao

ตั้งอยู่ในประเทศจีน ซึ่งนับว่าเป็นท่าขนส่งถ่านหินที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ถ่านหินมากกว่า 210 ล้านตันจะถูกส่งไปใช้เป็นเชื้อเพลิงทางตอนใต้ของจีนทุกปี

อีกทั้งยังมีรายงานเปิดเผยด้วยว่า ในปี 2017 รัฐบาลจีนได้เผาถ่านหินมากกว่าทุกปีถึง 17% แน่นอนว่าผลกระทบที่ตามมาคือเรื่องก๊าซคาร์บอนไดอ๊อกไซด์ในอากาศ

3

 

เหมืองแร่เพชร Jwaneng

เป็นเหมืองแร่เพชรที่ขึ้นชื่อว่าร่ำรวยเพชรที่สุดในโลก ตั้งอยู่ในประเทศบอตสวานา ซึ่งสามารถผลิตเพชรได้มากถึงปีละ 15.6 ล้าน กะรัต

4

 

บ่อสกัดแร่โพแทช

ตั้งอยู่ในเขต Moab รัฐยูท่าห์ ประเทศสหรัฐฯ บ่อแห่งนี้สามารถสกัดแร่โพแทชซึ่งเป็นแร่ธาตุที่มีเกลือดีพอสำหรับการนำไปทำปุ๋ย ซึ่งต้องใช้เวลาให้แร่ธาตุทำปฏิกริยากับความร้อนและน้ำ จนตกผลึกกลายมาเป็นแร่ธาตุที่สามารถนำไปใช้งานได้

5

 

อ่างสินแร่ และกากแร่

เป็นอ่างที่รวมของเสียจากการสกัดแร่ ซึ่งในภาพสารถูกปล่อยลงในลุ่มน้ำ Garibbens เพื่อให้ผสมกับน้ำและเกิดการแข็งตัวคล้ายดินเหนียวจนเป็นสิ่งที่เรียกว่า ‘slurry’  ซึ่งสามารถนำไปใช้ประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมได้อีก

GribbensTailingBasin_R1C1 - Version 3

 

อ่าวอิปานามา

ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเมืองริโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราซิล ขึ้นชื่อว่าเป็นอ่าวที่สวยที่สุดในโลก

7

 

ทะเลสาบ Shadegan

ภาพของสายน้ำที่ไหลออกเหมือนกิ่งไม้กำลังแตกก้านนี้ตั้งอยู่ที่อ่าว Musa ประเทศอิหร่าน ซึ่งภาพที่เราเห็นนี้เกิดจากการกัดกร่อนระหว่างน้ำและหิน

8

 

ท่าเรือขนส่งสิงคโปร์

เชื่อหรือไม่ว่าท่าเรือการขนส่งของสิงคโปร์นั้น ถือว่ามีเป็นท่าทียุ่งวุ่นวายติดอันดับ 2 ของโลก อีกทั้งยังเป็นท่าเรือการขนส่งน้ำมันดิบใหญ่อันดับ 5 ของโลก มีเรือบรรทุกหนักกว่า 3 แสนตัน เข้าออกทุกวัน

9

 

ทุ่งดอกทิวลิป

ทุกๆปีในช่วงเดือนมีนาคม ดอกทิวลิปที่เมือง Lisse ประเทศเนเธอร์แลนด์ จะบานสะพรั่งไปจนถึงปลายเดือนเมษายน ซึ่งประเทศนี้ส่งออกดอกทิวลิปมากถึง 4.3 พันล้าน นับเป็น 53% ของตลาดไม้ตัดดอก

10

 

สวนโอลีฟ

ต้นโอลีฟปกคลุมอยู่ทั่วทั้งหุบเขา Córdoba ในสเปน 90% จะถูกนำไปสกัดเป็นน้ำมัน ส่วนอีก 10% ของการส่งออกจะถูกนำไปใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร

11

 

ค่ายผู้อพยพ Dadaab

ด้านขวามือของภาพ คือศูนย์ช่วยเหลือผู้ลี้ภัยใหญ่ที่สุดในตอนเหนือของเคนย่า ซึ่งมีผู้ลี้ภัยอาศัยอยู่มากกว่า 1 แสนคน ซึ่งเมือง Dadaab ถือว่าเป็นเมืองที่มีผู้ลี้ภัยมากที่สุดในโลกถึง 4 แสนคน

และเพื่อแก้ปัญหาชาวโซมาเลียที่อพยพเข้ามา UN ได้เริ่มที่จะย้ายผู้ลี้ภัยให้ไปอยู่อีกส่วนหนึ่งเรียกว่า ‘LFO’ ซึ่งอยู่ทางด้านซ้ายในรูป

12

 

Delray Beaches Florida

ระยะหลังในช่วงศตวรษที่ 20 ชาวอเมริกันในฟลอริด้าจำนวนมาก นิยมที่จะสร้างบ้านอยู่เหนือทางน้ำผ่าน เพื่อให้เห็นวิวทิวทัศน์โดยรอบอย่างชัดเจน อย่างเช่นหมู่บ้าน ‘Delray Beaches’ ในภาพนี้

13

 

Burning Man

เทศกาลที่ถูกจัดขึ้นทุกๆปีกลางทะเลทราย Black Rock Desert รัฐเนวาด้า ประเทศสหรัฐฯ เทศกาลนี้เป็นเสมือนสังคมทดลอง ที่ผู้คนต่างใช้ชีวิตโดยอิงความเป็นศิลปะ บนปัจเจกความป็นตัวเอง มีผู้ร่วมงานมากถึง 65,000 คนในแต่ละปี

14

 

ท่าเรือ Antwerp

นับว่าเป็นท่าเรือใหญ่อันดับสองของยุโรป ตั้งอยู่ในประเทศเบลเยียม ซึ่งทุกๆปีที่นี่ต้องรองรับเรือมากกว่า 71,000 ลำ และ ตู้ขนสินค้าน้ำหนักรวมแล้วมากถึง 314 ล้านตัน ต่อปี

15

 

โรงไฟฟ้าความร้อนแสงอาทิตย์

โรงไฟฟ้าแห่งนี้ตั้งอยู่ในเมือง Seville ประเทศสเปน ที่นี่มีกระจกเตารังสีแสงอาทิตย์มากถึง 2,650 อัน กำลังรับพลังงานความร้อนจากแสงอาทิตย์ ก่อนจะนำไปเผาไหม้ในเกลือเหลว ผ่านเสาสูง 140 เมตร

ซึ่งหลังจากเกลือเหลวถูกเผาไหม้แล้ว จะถูกนำไปใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้า วิธีการนี้สามารถลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศได้มากถึง 30,000 ตันต่อปี

16

 

มีแต่ภาพที่เราไม่เคยเห็น และข้อมูลที่หลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อน ยังไงก็ต้องขอบคุณช่างภาพและข้อมูลดีๆ ที่เค้านำมาแชร์ให้พวกเราได้ชมกัน

emo-130

ที่มา: Metro

Comments

Leave a Reply