สรุปประเด็นเหตุการณ์ ‘คุณครูปาแก้ว’ ให้อ่านเข้าใจง่ายๆ!! (อัพเดท 14 กันยายน)

หากเพื่อนๆ ได้ติดตามข่าวสาร หรือหน้านิวส์ฟีดเฟซบุ๊คในวันนี้ คงจะได้เห็นเรื่องราวของเด็กหญิงที่ถูกคุณครูปาแก้วน้ำใส่อย่างรุนแรงจนทำให้ปากเบี้ยวกันไปบ้างแล้ว…

บางคนก็สงสัยว่าเรื่องราวมันเป็นมาอย่างไร มันเกิดอะไรขึ้นบ้าง ทำไมถึงมีคนแชร์กันมากมาย เดี๋ยว #เหมียวหง่าว จะมาสรุปเหตุการณ์ให้เพื่อนๆ อ่านกันเป็นข้อๆ ก็แล้วกันนะ

 

 

ภาพถ่ายของน้อง ช่วงก่อนที่จะเกิดเหตุ

3

 

1. เหตุการณ์เกิดขึ้นในเช้าวันที่ 8 สิงหาคม ขณะที่ น.ส. นฤดี จอดสัน (น้องทราย) นักเรียนชั้นม. 5 ได้เข้าแถวเรียนวิชาพละศึกษา แต่แถวที่น้องได้ต่ออยู่นั้นมีแดดส่อง ก็เลยลุกขึ้นยืนเพื่อหลบแดด แต่พอคุณครูมาเห็นเข้าก็เลยปาแก้วเซรามิคเข้าใส่โดนที่กกหูข้างซ้ายของน้อง

 

2. ในตอนแรกน้องทรายเล่าว่าไม่ได้มีอาการผิดปกติอะไร แต่พอเวลาผ่านไปเธอก็เริ่มรู้สึกว่าขยับใบหน้าด้านซ้ายไม่ได้เลย เวลายิ้มตาซ้ายไม่สามารถหลับได้สนิท และปากด้านซ้ายก็ไม่สามารถขยับได้เช่นกัน

 

3. ต่อมาคุณแม่ของน้องก็ได้พาไปหาหมอที่โรงพยาบาลประจำอำเภอหนองบุณมาก ซึ่งคุณหมอเองก็วินิจฉัยว่าน่าจะเป็นเพราะกล้ามเนื้อบวมทับเส้นประสาท หรือกระดูกแตกทับเส้นประสาทกันแน่

 

ภาพของอาการบวมและดวงตา

ใช้ภาพของน้องแบบไม่เซ็นเซอร์เพื่อให้เห็นอาการได้อย่างชัดเจน ตามที่น้องลงภาพไว้

2

 

4. ทางคุณหมอก็เลยส่งตัวน้องทรายไปที่โรงพยาบาลมหาราช และหมอที่โรงพยาบาลมหาราชก็ได้บอกว่าตอนนี้ไม่มียารักษา ต้องให้ร่างกายฟื้นฟูสภาพตัวเอง ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 6 เดือน

 

5. และตอนนี้ ก็ผ่านไป 1 เดือนแล้วอาการก็ยังไม่ดีขึ้น ก็เลยไปรักษาตัวกับโรงพยาบาลเซนต์แมรี่ นครราชสีมา หมอได้ดูรายละเอียดเกี่ยวกับการตรวจเส้นประสาทของน้องก็พบว่า เส้นประสาทตาเริ่มเสื่อมสภาพลง อาการไม่ดีขึ้นเลยทั้งที่มันน่าจะฟื้นตัวได้ดีกว่านี้

 

6. คุณหมอก็เลยแนะนำว่าถ้าในช่วง 1 – 3 เดือนนี้ ไม่มีอะไรดีขึ้นก็จะต้องทำการผ่าตัด ซึ่งค่าใช้จ่ายที่ต้องใช้ในการผ่าตัดนั้นจะอยู่ที่ประมาณ 3-4 แสนบาท

 

ภาพของน้อง จากรายการทางช่อง 3

1

 

7. ก่อนหน้านี้ทางโรงเรียนก็จ่ายค่ารักษาพยาบาลเบื้องต้นให้ แต่พอรู้ว่าจะต้องผ่าตัด และทราบถึงจำนวนเงินที่ต้องใช่ในการผ่าตัด ก็เลยให้ครอบครัวของน้องทรายเข้าไปตกลงกับคุณครูเอาเอง

 

8. ครอบครัวของน้องทรายได้เข้าไปคุยกับคุณครูคู่กรณี และเขาเสนอให้ว่าจะจ่ายให้แค่ 80,000 บาท แล้วไปทำการรักษาเอง ซึ่งน้องทรายก็ได้ปรึกษากับครอบครัวและตกลงกันว่าจะไม่รับข้อเสนอนี้

ทางคุณครูก็เลยบอกว่าถ้าอยากได้มากกว่านี้ให้ทำการฟ้องร้องเอาเอง น้องทรายก็เลยเข้าไปโพสต์เพื่อขอความเป็นธรรมในกลุ่ม กลุ่มข่าวคนโคราชบ้านเอ็ง

 

โพสต์ดังกล่าวที่น้องร้องเรียนจนกลายเป็นประเด็นดัง

ok

 

9. ผอ. ของโรงเรียนออกมาแถลงข้อเท็จจริงผ่านสื่อ และยอมรับว่าเหตุการณ์นั้นได้เกิดขึ้นจริง แต่เป็นเหตุสุดวิสัย เพราะเนื่องจากว่าคุณครูมีเจตนาปาใส่กำแพง แต่แก้วดันกระเด็นไปถูกนักเรียน

 

10. ล่าสุดทางผอ. ก็ได้ให้สัมภาษณ์อีกว่าตอนนี้ได้เรียกคุณครูคนดังกล่าวมาสอบสวนถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้มีบทลงโทษที่ชัดเจนแต่อย่างใด…

 

4

 

11. น้องออกมายืนยันอีกครั้งผ่านทางเพจข่าวสด ว่าตนเองโดนครูปาแก้วมาใส่จริง ไม่ใช่แก้วพลาสติก และไม่ใช่การตั้งใจปาใส่ผนัง แต่เป็นการเจตนาปาใส่ตัวน้องเอง

 

12. สำนักงานเขตพื้นที่มัธยมศึกษาเขต 31 สั่งสอบวินัยเร่งด่วน โดยให้รายงานผลการสอบวินัยของครูพละเป็นเวลา 7 วัน (ตั้ง ผอ. โรงเรียนสุรนารีวิทยา เป็นประธานกรรมการสอบสวน)

 

13. โรงเรียนยื่นข้อเสนอชดใช้ค่าเสียหายเพิ่มเป็น 100,000 บาท แต่ทางผู้ปกครองไม่ยอม เพราะต้องการเรียกร้องค่ารักษาเต็มจำนวน ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 300,000 บาท

 

14. ทางมูลนิธิปวีณา จะพาน้องเข้ามารักษาที่โรงพยาบาลยันฮี ในกรุงเทพมหานคร ซึ่งล่าสุดน้องยังไม่ได้เดินทางมา แต่หยุดเรียนไปก่อน

 

 

แน่นอนว่ากรณีนี้เราก็ต้องรอดูกันต่อไป ยังไงจะมีการอัพเดทข้ออื่นๆ ลงในเนื้อหาเมื่อมีอะไรคืบหน้าเข้ามานะครับ

ก็หวังว่าน้องทรายจะได้รับความเป็นธรรมมากที่สุด หากมีอะไรคืบหน้า #เหมียวหง่าว จะรีบคาบข่าวมาฝากชาวเหมียวทุกคนอย่างเร็วไวเลยนะจ๊ะ (เตรียมปูเสื่อรอได้เลย)

emo-1

เรียบเรียงโดย #เหมียวหง่าว ขอบคุณภาพจาก ตู้ปณ. ข่าว3 ช่อง 28

Comments

Leave a Reply