สปอยล์หนังพร่อมตาย… เมื่อเทรนด์สปอยล์หนังในเฟซบุ๊คมา ดราม่าก็บังเกิดขึ้นในทันใด

ช่วงนี้ไปทางไหนคงหนีไม่พ้นกระแสภาพยนตร์เรื่อง แฟนเดย์ ที่กำลังมาแรงซะเหลือเกิน ซึ่งแน่นอนว่าการจ่ายเงินตั้งแต่หลักร้อยจนถึงหลักพัน เข้าไปในโรงภาพยนตร์นั้น แต่ละคนก็คาดหวังกับหนังแตกต่างกันไป

บางคนมาดูเพราะชอบพระเอก ชอบนางเอก อยากรู้เนื้อเรื่อง หรือบางคนที่รู้เนื้อเรื่องอยู่แล้ว แต่ก็อยากจะมาดู กระทั่งบางคนที่ดูจบหนึ่งรอบ ก็มาซ้ำรอบสองรอบสาม ให้เห็นกันบ่อยไป

แต่… ประเด็นมันอยู่ตรงที่ บางเพจซึ่งได้ดูหนังเรื่องนี้มาก่อน ด้วยความหวังดีหรืออยากจะแกล้งใครก็ไม่ทราบได้ ถึงขั้นลงมือทำภาพสปอยล์เนื้อเรื่องตอนจบขึ้นมาใน 2-3 คำ อัพโหลดลงบนหน้าเพจเฟซบุ๊ค แล้วให้คนมากดไลค์หรือแชร์ต่ออีกมากมาย

ขออนุญาตหยิบภาพที่กำลังเป็นประเด็นในกระทู้ฮอทของวันนี้มาเลยนะครับ

เอาละ แน่นอนว่าการลงภาพแบบนี้ ย่อมจะถูกแชร์ออกไปยังวงกว้างได้ง่าย เพราะนอกจากการกดแชร์ไปในหน้าไทม์ไลน์ของเพื่อน ส่งให้เพื่อนในเมสเสจ หรือกระทั่งหน้าเฟซบุ๊คของตัวเองแล้ว

เพียงแค่เรากดไลค์ หรือแสดงความรู้สึกกับภาพ หรือกระทั่งไม่ชอบภาพนี้แล้วเข้าไปคอมเม้นท์ด่า ก็จะถูกระบบของเฟซบุ๊คดึงไปแสดงผลบนหน้านิวส์ฟีดของเพื่อนโดยอัตโนมัติ

และที่ซ้ำร้ายไปกว่านั้นก็คือ ยิ่งมีคนไลค์มาก แชร์มาก หรือยิ่งมีคนไปคอมเม้นท์ด่ามาก มันก็จะถูกระบบคิดว่าเป็นเรื่องฮอท และถูกนำไปแสดงผลมากยิ่งขึ้น แล้วมันแย่ตรงไหน!?

ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจระบบสังคมบนโลกปลอมๆ ที่เรียกว่าโซเชียลเน็ตเวิร์กกันก่อน

สมมติว่าโทนี่ เป็นเพื่อนกับไอ้สตีฟ แล้วสตีฟกับโรมานอฟเป็นเพื่อนกัน โดยที่โทนี่และโรมานอฟไม่รู้จักกัน แล้วบังเอิญเหลือเกินว่าโรมานอฟมันชอบสปอยล์หนัง แต่โทนี่มันเกลียดการสปอยล์เข้าไส้

โรมานอฟกดไลค์ภา่พนี้ โดยที่ก็ไลค์ไปงั้นๆ (อาจจะชอบที่เพจนี้สปอยล์ด้วย) แต่สตีฟดันไปเห็นก็เลยเข้าไปคอมเม้นท์ด่า ว่าทำแบบนี้มันไม่เหมาะ

อยู่ดีๆ ภาพก็จะโผล่ไปขึ้นหน้านิวส์ฟีดของโทนี่เฉยๆ ว่าสตีฟไปเม้นภาพนี้นะ และรับการสปอยล์เข้าไปเต็มๆ ทั้งที่ไม่เกี่ยวอะไรด้วยเลย

การสปอยล์มันทำให้คนเสียความรู้สึกขนาดนั้นเลยเหรอ!?

อย่าลืมว่าคนเรามีร้อยพ่อพันแม่ สำหรับบางคนอาจจะเฉยๆ (รวมถึง #ประธานเหมียว เองเช่นกัน) บางคนอาจจะชอบ รู้สึกว่าดูสนุกขึ้น แต่กับบางคน มันคือการเสียความรู้สึกครั้งใหญ่

สมมติว่าคุณเป็นแฟนคลับพี่เต๋อ แต่บังเอิญในภาวะเศรษฐกิจแย่ๆ แบบนี้ เงินมันหาลำบาก กว่าจะเก็บเงินไปดูหนังได้ใช้เวลาหลายเดือน แล้วอยากจะเข้าไปลุ้นใจจะขาด แต่ก่อนไปดูแค่ 5 นาทีเล่นเฟซบุ๊คแล้วเจอสปอยล์เต็มๆ แบบนี้ ถึงขั้นตัดเพื่อนกันก็มีจริงๆ

ไม่อยากอ่านสปอยล์ก็ไม่ต้องเล่นเฟซบุ๊คสิ!!!

ลองมองย้อนกลับไป กรณีทำนองนี้ในอดีตของเว็บบอร์ดชื่อดังหลายๆ แห่ง ก็เคยมีข้อพิพาทเรื่องการตั้งกระทู้สปอยล์หนัง หรือคอมเม้นท์ในเชิงสปอยล์

ซึ่งสุดท้ายหลายๆ ที่ก็ใช้ทางออกเหมือนกันคือ ตั้งพาดหัวกระทู้ไม่ให้สปอยล์ และเขียนเอาไว้ว่ามีการสปอยล์อยู่นะ ให้คนที่เข้าไปอ่านได้รับรู้เอาไว้ หรืออย่างน้อยเวลาเลื่อนอ่านหน้าเว็บบอร์ดผ่านๆ ก็จะได้ไม่โดนสปอยล์

แต่… นี่คือโลกเฟซบุ๊ค ถึงแม้ว่าการตั้งสเตตัสยาวๆ แล้วใส่ข้อความว่ามีสปอยล์นะ จะทำให้คนเลื่อนผ่านไปได้โดยไม่มีปัญหาอะไร แต่สำหรับการทำเป็นรูปภาพแบบนี้ แน่นอนว่าเกิดปัญหาตามมาเพราะคนสามารถอ่านได้ทันทีทั้งๆ ที่ไม่สนใจ แต่พอสายตามันไปสะดุด สมองก็ประมวลผลในไม่ถึง 1 วินาที และกลายเป็นว่ารับรู้ตอนจบแบบเต็มๆ ไป

ซึ่งอย่างที่บอก คนเรามีร้อยพ่อพันแม่ สำหรับบางคนมันคือการเสียความรู้สึกอย่างมาก

แก้ปัญหาอย่างไรล่ะ!?

ฝ่ายที่ต่อต้านการสปอยล์ก็จะออกมารณรงค์ให้หยุดทำ รวมถึงต่อต้า่นคนที่สนับสนุนเรื่องนี้จนถึงขั้นเลิกเป็นเพื่อนกันในโลกโซเชียลก็มี แต่แน่นอนว่ามันก็ไม่สามารถหยุดได้อยู่ดี

เพราะหากคนที่ยังอยากสปอยล์ทำมาเรื่อยๆ ยังมีคนสนับสนุน ยังมีคนอยากอ่าน ก็ไม่สามารถห้ามอะไรได้เช่นกัน ถ้าถามความเห็นส่วนตัว #ประธานเหมียว แล้ว การอยากคุยสปอยล์เนื้อหาของหนังแต่ละเรื่อง สามารถทำได้ในเว็บบอร์ดต่างๆ ในช่องข้อความส่วนตัว หรือกลุ่มที่สร้างขึ้นมาเพื่อเรื่องนั้นโดยเฉพาะ

หรือถ้ามันไม่ไหวต้องการจะคุยอะไรในที่สาธารณะอย่างหน้าแฟนเพจ ก็น่าจะมีการบอกกล่าวเอาไว้สักหน่อย เพราะบางเรื่องที่ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับตัวเรา มันอาจจะเป็นปัญหาใหญ่ของอีกหลายคนที่ได้มาเห็น

การจะคิดถึงหัวจิตหัวใจคนอื่นสักนิด มันก็ไม่ใช่เรื่องแย่อะไรหรอกเนอะ…..

ส่วนหนึ่งจากกระทู้ดราม่าวันนี้ ตามไปอ่านต่อได้ที่: เลิกเถอะครับ! การสปอยลง Social Network ไม่ได้ดูดีและเท่เลย เป็นพฤติกรรมที่ควรเปลี่ยนมากๆครับ