สื่อต่างชาติลงข่าว ‘ตุ๊กตุ๊กไทย’ ส่งสัญญาณแก๊งค์โจร ฉกกระเป๋านักท่องเที่ยว (จับคนร้ายได้แล้ว)

อัพเดท: จับคนร้ายได้แล้ว ยอมรับสารภาพ และตุ๊กตุ๊กไม่ได้เกี่ยวข้องแต่อย่างใด #เหมียวหง่าว

กลายเป็นประเด็นวิพากย์วิจารณ์กันในโลกออนไลน์ขึ้นมา เมื่อเพจเฟซบุ๊คเกี่ยวกับการท่องเที่ยว GOtrip ได้แชร์คลิปเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวฮ่องกงได้มาเที่ยวที่ประเทศไทย ขณะที่กำลังนั่งรถตุ๊กๆ อยู่ จู่ๆ ก็ถูกคนร้ายซ้อนมอเตอร์ไซค์ขี่มาตีคู่แล้วฉกกระเป๋าไปเฉยเลย

ทำให้มีชาวเน็ตเข้ามาชมกันมากมายโดยตอนนี้มียอดเข้าชมกว่า 1.7 ล้านครั้งแล้ว ทำให้มีการถกเถียงกันไปต่างๆ นาๆ

 

ลองไปชมคลิปกันดูก่อนที่ข้างล่างนี้ได้เลย…

 

เรื่องนี้ดังมาก เพราะมีการแชร์ทั้งในเพจต่างประเทศ ที่มีคนแชร์ต่อมากถึง 20,000 ครั้ง ยอดวิวกว่า 1.7 ล้านครั้ง!!!

tuk

 

เว็บข่าวต่างประเทศเอาไปตั้งประเด็น อาจจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อประเทศในด้านการท่องเที่ยวอย่างมาก


tuk2

 

จากรายงานข่าวในต่างประเทศ ดูเหมือนว่าการปล้นครั้งนี้จะทำเป็นกระบวนการด้วย ทั้งคนขับรถตุ๊กๆ และคนขี่รถมอเตอร์ไซค์ ที่ตั้งข้อสังเกตแบบนี้ก็เพราะว่าในระหว่างที่นักท่องเที่ยวจะถูกขโมยกระเป๋านั้น

พวกเขาก็ได้ทำการบันทึกคลิปวิดีโอไว้ด้วย (เจ้าตัวอ้างว่าเป็นการถ่ายบรรยากาศเมือง ขณะนั่งรถตามประสานักท่องเที่ยว)

1

 

และจะเห็นได้ว่าก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ฉกกระเป๋าขึ้น ที่มือของคนขับตุ๊กๆ เหมือนจะมีปฏิกิริยาอะไรซักอย่าง เหมือนกับว่าส่งสัญญาณเพื่อให้คนขี่มอเตอร์ไซค์ลงมือเด๊ะๆ เลย

2

 

หลังจากที่คลิปถูกแชร์ลงในโลกโซเชียลก็มีชาวเน็ตเข้ามาตั้งข้อสังเกตกันมากมาย…

โดยมีอยู่ 3 ประเด็นด้วยกัน ดังนี้

– อย่างแรกคือบังเอิญปวดข้อมือ รวมถึงใส่นาฬิกาอยู่ด้วย ก็เลยสะบัดเฉยๆ

– อย่างที่สองคือเป็นการปล้นกันเป็นกระบวนการจริงๆ เพราะมีการส่งสัญญาณที่ชัดเจน พร้อมกับมีจังหวะชะลอรถ ให้คนร้ายที่ขับตามมาข้างหลังฉกไปได้อย่างง่ายดาย

– และข้อสุดท้ายคือเป็นการจัดฉาก เพราะถ้าเป็นกระบวนการจริงๆ นั้นคนร้ายจะต้องมีการรัดกุมมากกว่านี้ แต่ในคลิปนั้นเปิดเผยหมายเลขของป้ายทะเบียนโดยไม่ได้ระวังตัวอะไรเลย และการถ่ายคลิปก็เช่นเดียวกัน คืออะไรมันจะบังเอิญปานนั้น

 

แล้วชายเหมียวของเรามีความคิดเห็นอย่างไรกันบ้าง คิดว่าเป็นกระบวนการขโมยของจากนักท่องเที่ยวจริงๆ หรือไม่? หรือพี่ตุ๊กๆ แกแค่บังเอิญ หรือเป็นการจัดฉาก อยู่ทีมไหนก็ลองคอมเม้นท์กันเข้ามาได้เลยนะจ๊ะ ^^

emo (1)

ที่มา : GOtrip, Dailymail

Comments

Leave a Reply