เกร็ดน่ารู้ 10 ข้อเกี่ยวกับตู้และบัตร ATM ที่จะช่วยให้เพื่อนๆ รอดพ้นจากเงื้อมมือของมิจฉาชีพ!!

ปัจจุบันเหล่ามิจฉาชีพทั้งหลายจ้องที่จะขโมยเงินที่อยู่ในธนาคารของเราไปด้วยวิการต่างๆ นาๆ หลายคนคงเคยได้ยินข่าวที่ว่ามีมิจฉาชีพขโมยเงินด้วยการก็อปปี้ข้อมูลบัตร ATM แล้วดึงเงินที่อยู่ในบัญชีไป ซึ่งเกิดความเสียหายมูลค่ากว่าหลายล้านบาท

วันนี้ #เหมียวหง่าว มีเรื่องราวน่าสนใจเกี่ยวกับตู้ และบัตร ATM มาเล่าให้เพื่อนๆ ฟังกัน เพื่อเป็นประโยชน์ในการป้องกันทรัพย์สินของเพื่อนๆ ไม่ให้ถูกขโมยไปโดยเหล่ามิจฉาชีพ

 

1. ตัวก็อปปี้ข้อมูลบัตร (Skimmer)

1

ให้เพื่อนๆ สังเกตุบริเวณที่สอดบัตรให้ดี เพราะว่ามันมีลักษณะที่ดูคล้ายกันมาก โดยเจ้าเครื่องนี้จะทำการแสกนและก็อปปี้ข้อมูลที่อยู่ในบัตรทั้งหมด เพราะฉะนั้นก่อนกดเงินก็ลองขยับๆ ตรงช่องสอดบัตรดูก่อนนะจ๊ะ

 

2. สังเกตุความแตกต่าง

2

เจ้าตัว Skimmer นี้จะมีขนาดที่ใหญ่และหนากว่าช่องปกติธรรมดา

 

3. บัตรที่ฝังชิปไม่ได้การันตีถึงความปลอดภัยได้เสมอไป

3

แน่นอนว่าการ์ดที่มีชิปฝังอยู่นั้นทำให้ยากต่อการถูกแฮ็ค แต่ถึงกระนั้นตู้ทั้งหลายก็ไม่ได้อัพเกรดเพื่อให้บัตรเหล่านี้ใช้งานด้วยกันได้ การที่เราใช้บัตรที่มีแถบแม่เหล็ก บางทีอาจจะทำให้ตกเป็นเป้าสายตาของผู้ร้ายมากขึ้น เพราะมันดูเหนือกว่าบัตรธรรมดาทั่วไป

 

4. เครื่อง Skimmer ยังคงต้องการใช้รหัสบัตรเพื่อเข้าถึงข้อมูล

4

ส่วนใหญ่แล้วเหล่ามิจฉาชีพเหล่ามิจฉาชีพจะทำการติดตั้งกล้องไว้ที่ไหนสักแห่งเพื่อส่องดูการกดรหัสของคุณ เพราะฉะนั้น การเอามือปิดจะช่วยได้อย่างมาก

 

5. แต่อย่างไรก็ตาม การปิดก็ไม่ได้ผลเสมอไป เพราะแป้นกดตัวเลขปลอม

5

แป้นกดตัวเลขปลอมจะถูกวางลงบนของเดิม เพื่อบันทึกการกดรหัสของคุณ

 

6. อุปกรณ์ที่ควรสังเกตุ

6

แป้นกด กล้อง และ Skimmer เป็นสิ่งที่ควรตรวจทานดูก่อนเสมอก่อนที่จะทำการกดเงินที่ตู้ ATM

 

7. ควรใส่ใจในการกดรหัสบัตร ATM ทุกครั้งเพื่อป้องกันการรู้รหัสของคุณ

7

การกดรหัสที่เห็นแบบในภาพข้างบนนี้จะทำให้มิจฉาชีพสามารถมองเห็นรหัสของเราได้อย่างชัดเจน

 

8. สิ่งที่ควรทำเมื่อกำลังกดรหัส

8

ใช้มือป้องบริเวณด้านบน จะทำให้บังการมองเห็นจากกล้องได้ดีกว่าการป้องจากด้านข้าง

 

9. ลองเขย่าตู้ ATM ดู

9

ตู้ ATM นั้นถูกสร้างออกมาให้แข็งแรงทนทาน หากเราเขย่าและรู้สึกว่ามีส่วนใดส่วนหนึ่งแปลกๆ ไปก็ให้ระวังไว้ การขยับบัตรขึ้นลงขณะสอดจะช่วยให้สามารถขัดขวางการทำงานของเจ้าเครื่อง Skimmer ได้

 

10. หากคุณกลายเป็นเหยื่อของการถูกโจรกรรม คุณยังสามารถรับเงินคืนได้

10

ก่อนเซ็นสัญญาทำธุรกรรมทางการเงินไม่ว่ากับที่ไหนจงอ่านสัญญาอย่างถี่ถ้วน โดยส่วนใหญ่แล้วหากคุณแจ้งเรื่องการถูกโจรกรรม ทางธนาคารจะทำการคืนเงินให้คุณภายใน 60 วัน

Emo new (6)

หวังว่าเกร็ดน่ารู้เหล่านี้ จะช่วยให้เพื่อนๆ สามารถเพิ่มความปลอดภัยจากการถูกโจรกรรมได้ แม้ว่าจะเล็กน้อยก็ยังดีนะจ๊ะ ^^

ที่มา : lifebuzz

Comments

Leave a Reply