ตำนานแหวนแห่ง ‘Joan Arc’ นักรบหญิงชาวฝรั่งเศส ผู้หยิบอาวุธสู้อังกฤษ และไม่เคยแพ้ชายใดสักครั้ง!!

หลายๆคนคงเคยได้ยินเรื่องราวความบาดหมางระหว่างชาวอังกฤษกับฝรั่งเศสในอดีต ซึ่งในอดีตนั้นเค้ารบราฆ่าฟันกันมายาวนานกว่าหลายร้อยปี

 

ในระหว่างนั้นก็มีนักรบที่มีชื่อเสียงโด่งดังเกิดขึ้นมากมาย หนึ่งในนั้นก็คือ Joan Arc เป็นนักรบหญิงเพียงคนเดียวที่หยิบอาวุธขึ้นมาสู้รบกับชาวอังกฤษและยังไม่เคยได้รับความพ่ายแพ้เลยแม้แต่ครั้งเดียวจนถูกชาวอังกฤษกล่าวหาว่าเป็นแม่มด เธอจึงถูกนำตัวไปเผาทั้งเป็น

เป็นสาเหตุมาจากสมัยยุคกลางที่ศาสนาอยู่เหนืออำนาจการปกครองทุกสิ่ง ณ ตอนนั้น ใครที่ปฏิเสธคำสอนของศาสนาจะถูกตราหน้าว่าเป็นแม่มด เป็นอุบายของเหล่าผู้ปกครองที่ใช้ความกลัวต่อสิ่งเหนือธรรมชาติ เพื่อทำให้ประชาชนอยู่ภายใต้การปกครอง

 

และโทษของเหล่าแม่มดก็คือประหารชีวิตด้วยการเผาทั้งเป็น (ซึ่งการตามล่าหาแม่มดนี้ถูกนำไปใช้ในทางที่ผิดบ่อยครั้งไป) แต่อย่างไรก็ตามการกล่าวหาแบบนี้เป็นเรื่องที่ไม่เป็นธรรมนัก เพราะไม่มีการพิสูจน์ใดๆเกิดขึ้น(ทำไม่ได้) ใครที่ถูกกล่าวหา และมีข้ออ้างที่สมเหตุสมผลหน่อย ก็จะถูกนำไปประหารได้เลย

3

 

ก่อนจะถูกประหารเธอได้ส่งแหวนวงหนึ่งไปให้กับพระคาร์ดินัลในอังกฤษ และแหวนนั้นก็ถูกเก็บไว้ที่ London ตั้งแต่ศตวรรษที่ 15 มาจนถึงยุคปัจจุบัน

1

 

ล่าสุดมูลินิธิ Puy du Fou ที่สร้างสวนประวัติศาสตร์ในประเทศฝรั่งเศส ได้ทำการประมูลแหวนที่มีการกล่าวอ้างว่าคือแหวนของ Joan Arc มากจากลอนดอนในราคากว่า 15 ล้านบาท

2

 

จากนั้นเขาก็ได้นำมาตรวจสอบกลับพบว่าเจ้าแหวนวงนี้มีคุณสมบัติตรงตามเรื่องเล่าของ Joan of Arc ทุกประการ ทั้งรอยสลักที่เขียนคำว่า ‘Jhesus Maria’ และ รูปกางเขน 3 อัน พร้อมกับทำขึ้นมาจากทองคำและทองเหลือง จึงฟันธงได้เลยว่านี่แหละคือของแท้แน่นอน

4

โดยถูกคาดคะเนว่าแหวนวงนี้คือของขวัญที่เธอได้รับมาจากพ่อและแม่ของเธอ ก่อนที่เธอจะถูกประหารชีวิตในปี 1431 จากนั้นเจ้าแหวนวงนี้ก็ถูกส่งไปยังเจ้าของหลายราย ที่ทำการซื้อขายกันไปมามากกว่า 30 ครั้ง

 

5

 

และท้ายที่สุดมันก็กลับมาที่บ้านเกิดของเจ้าของที่แท้จริงของมันเสียที โดยพี่ Nicolas ประธานของมูลนิธิ Puy du Fou กล่าวว่า “นี่คือการกลับมาที่ยิ่งใหญ่ของสมบัติประจำชาติฝรั่งเศส”

 

ในที่สุดก็ได้กลับบ้านเกิดเสียที หวังว่าวิญญาณของ Joan Arc คงจะสบายใจได้ซักทีนะ หลังจากที่เดินทางร่อนเร่ไปมากว่า 600 ปีด้วยกัน ขนาดราคาแพงแบบสุดๆแต่พี่ Nicolas เค้าก็ยังลงทุนประมูลเพื่อนำกลับมาได้ น่าประทับใจมั่กๆเลยนะ

ที่มา : metro

Comments

Leave a Reply