รู้หรือไม่ การตกจากที่สูงของ “แมว” เคยช่วยให้ “นาซา” รับมือกับภาวะไร้แรงดึงดูดได้ดีขึ้น

เป็นเรื่องที่เราทราบกันว่าเมื่อที่แมวตกลงมาจากที่สูงไม่ว่าจะในรูปแบบไหน ตามปกติแล้วพวกมันจะมีความสามารถที่จะพลิกตัวกลางอากาศและเอาเท้าลงพื้นก่อนได้อยู่เสมอๆ

นี่อาจจะเป็นเรื่องที่ดูธรรมดาสำหรับหลายๆ คนในปัจจุบัน แต่สำหรับคนในสมัยก่อนแล้ว ความสามารถในการพลิกตัวกลางอากาศเหล่านี้ มันว่าเป็นเรื่องที่นักฟิสิกส์หลายๆ คนให้ความสนใจมาก เพราะในเวลานั้นไม่มีใครทราบได้เลยว่าแมวเหล่านี้มีการพลิกตัวอย่างไรโดยไม่ละเมิดกฎพการอนุรักษ์โมเมนตัมเชิงมุม

 

ภาพการทดลองปล่อยแมวจากที่สูงในปี 1894

 

เรื่องราวของการพลิกตัวกลางอากาศที่แมวทำนั้น เป็นปริศนาที่ไขไม่ออก (เอาจริงๆ ต้องบอกว่าไม่มีใครสนใจทำวิจัยเฉยๆ ) เรื่อยมา

จนกระทั่งในปี 1969 ที่มีงานวิจัยที่ได้รับการสนับสนุนโดยนาซา ชื่อ “A Dynamical Explanation of the Falling Cat Phenomenon.” ได้ออกมาพยายามไขปริศนานี้ด้วยอุปกรณ์ทรงกระบอกที่ติดกันสองอัน ซึ่งใช้เป็นตัวแทนของแมว และกระดูกสันหลังซึ่งมีลักษณะพิเศษของพวกมัน

 

 

งานวิจัยชิ้นนี้นั้น เป็นผลงานของนักวิจัยสองคนจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดคือ T.R. Kane กับ M.P. Scher และมีจุดเด่นที่สำคัญที่สุดของงานวิจัยอยู่ที่ภาพของแมวที่ถูกวาดภาพทรงกระบอกทับลงไป เพื่ออธิบายการเคลื่อนไหวกลางอากาศของพวกมัน

จริงอยู่ว่าในเวลานั้นงานวิจัยของคุณ T.R. Kane และ M.P. Scher จะไม่ได้อธิบายระบบฟิสิกส์ที่อยู่เบื้องหลังการพลิกตัวของแมวไว้ทั้งหมด แต่ผลงานของพวกเขา (โดยเฉพาะรูปแมวในงานวิจัย) ก็ช่วยเหลือการทำงานของทางนาซาไว้ได้เป็นอย่างดี

 

 

นั่นเพราะภาพทรงกระบอกที่อยู่ในงานวิจัยของพวกเขานั้นช่วยให้ในเวลาต่อมานาซาสามารถ พัฒนาการเคลื่อนไหวที่จะทำให้คนเราสามารถพลิกตัวกลางอากาศและแตะพื้นแบบคว่ำหน้าลงอยู่เสมอขึ้นมาได้

ระบบการพลิกตัวแบบนี้นั้นสำหรับมนุษย์บนโลกอาจจะดูไม่สำคัญเท่าไหร่นัก แต่สำหรับเหล่านักบินอวกาศแล้ว การที่พวกเขาสามารถกำหนดทิศทางที่จะพลิกตัวกลางอากาศได้นั้นนับว่าเป็นอะไรที่มีค่าเป็นอย่างยิ่งเลย

 

 

และแน่นอนว่าเรื่องเหล่านี้ก็คงไม่มีทางเป็นจริงขึ้นมาได้เลย หากมนุษย์เราไม่ไปเห็นการพลิกตัวของเจ้าแมว และเกิดความสงสัยขึ้นมา

 

ที่มา rarehistoricalphotos

Comments

Leave a Reply