การวิจัยฟอสซิลวาฬสีน้ำเงินที่ใหญ่ที่สุดพบ พวกมันตัวใหญ่แบบนี้มานานกว่า 1.5 ล้านปีแล้ว

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2006 ที่ใกล้ๆ เมือง Matera ทางตอนใต้ของประเทศอิตาลี ชาวนาคนหนึ่งได้ทำการค้นพบฟอสซิลโบราณที่มีขนาดถึง 26 เมตร และทราบในเวลาต่อมาว่าฟอสซิลที่เขาพบนั้นแท้จริงแล้วคือ ฟอสซิลของวาฬสีน้ำเงินที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของโลก (แม้ว่าจะมีขนาดเล็กกว่าวาฬสีน้ำเงินในปัจจุบันก็ตาม)

 

 

ในเวลานั้น ฟอสซิลที่พบได้ถูกส่งไปเก็บไว้ในพิพิธภัณฑ์ และมีเหล่านักวิทยาศาสตร์มากมายที่เข้ามาตรวจสอบฟอสซิลชิ้นนี้ โดยที่หนึ่งในนั้นก็คือเหล่านักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยในออสเตรเลีย

พวกเขาได้ทำการวิจัยฟอสซิลชิ้นนี้มาเป็นเวลานานจนกระทั่งพบข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับอดีตของการวิวัฒนาการของวาฬสีน้ำเงินที่ว่าวาฬเหล่านี้อาจจะมีชีวิตอยู่บนโลกมาตั้งแต่ช่วงยุคไพลสโตซีน เมื่อ 1.2-1.5 ล้านปีก่อนแล้ว

 

ฟอสซิลส่วนกะโหลก เมื่อมองจากด้านหลัง

 

การค้นพบในครั้งนี้นับว่าต่างไปจากข้อสันนิษฐานที่ผ่านๆ มาของวาฬสีน้ำเงินมาก เพราะในสมัยก่อนเราเคยคิดกันว่าวาฬสีน้ำเงินนั้น เป็นสัตว์ที่เพิ่งปรากฏตัวบนโลกในยุคหลังๆ และมีขนาดตัวที่พัฒนาขนาดขึ้นจากวาฬธรรมดาอย่างรวดเร็วภายในเวลาสั้นๆ

อย่างไรก็ตาม จากผลการวิจัยล่าสุดนี้เอง เหล่านักวิทยาศาสตร์กลับพบว่าหากเทียบฟอสซิลวาฬสีน้ำเงินชิ้นนี้เข้ากับ วาฬสีน้ำเงินที่ในปัจจุบัน และฟอสซิลวาฬอื่นๆ ในอดีตแล้ว เราจะเห็นได้ว่าวาฬสีน้ำเงินนั้น แท้จริงแล้วมีการพัฒนาตัวที่ใหญ่ขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป ไม่ได้ก้าวกระโดดอย่างที่เราเคยคิด

 

แผนภูมิขนาดตัวของวาฬสีน้ำเงินที่เคยมีการพบมา โดยวาฬซึ่งพบที่ Matera จะเป็นจุดสีแดงที่อยู่บริเวณด้านขวาของแผนภูมิ

 

Felix Marx นักบรรพชีวินวิทยาหนึ่งในทีมวิจัยกล่าวว่า การค้นพบในครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจเท่าไหร่เลย เพราะการที่สัตว์จะขยายตัวจนมีขนาดใหญ่โตเช่นนี้ได้ หากคิดกันตามปกติก็น่าจะต้องใช้เวลานานอยู่แล้ว

ทั้งนี้ทีมนักวิทยาศาสตร์ยังบอกไว้อีกว่าหากแนวคิดของพวกเขาถูกต้องจริงๆ ไม่แน่ว่าในอนาคต เราจะสามารถเห็น ฟอสซิลของวาฬสีน้ำเงินที่เก่าแก่และมีขนาดใหญ่แบบนี้อีกก็เป็นได้

 

โครงกระดูกของวาฬสีน้ำเงินที่ถูกเก็บไว้ที่พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติลอนดอน

 

ที่มา allthatsinteresting, nationalgeographic, newscientist และ royalsocietypublishing

Comments

Leave a Reply