ส่งไม้ต่อ จาก “พี่ดุนะ หนูไหวเหรอ” สู่ “ผมเรียนหมอนะ เผื่อคุณลืม” แค่อ่านก็ละมุนแล้วคุณพี่

อย่างที่ทุกคนทราบกันดีว่า ไม่นานมานี้มีประโยคเด็ด “พี่ดุนะ หนูไหวเหรอ” กลายเป็นกระแสไปทั่วโลกออนไลน์

แต่แล้วประโยคนี้ก็โดนแย่งชิงพื้นที่บนโลกโซเชี่ยลไป เมื่อจู่ๆ ก็มีประโยค “ผมเรียนหมอนะ เผื่อคุณลืม” โผล่เข้ามาเต็มหน้าไทม์ไลน์ของเรา…

ซึ่งหลายๆ คนก็สงสัยกันแล้วว่า ประโยคอันแสนละมุนละม่อมแบบนี้มันมาจากไหนกันนะ วันนี้ #เหมียวฝึกหัดหมายเลข27 ขอเฉลยว่าแท้จริงแล้วประโยคนี้มาจากรูปภาพนี้ยังไงล่ะ!!?

 

ผ่างงงงงง!

 

แต่ลายมือยึกยือนี่ไม่ได้แปลว่า “ผมเรียนหมอนะ เผื่อคุณลืม” หรอกนะ แต่ลายมือของคุณหมอท่านหนึ่ง ที่กลายเป็นกระแสในอินเทอร์เน็ตช่วงก่อน ถอดรหัสออกมาเป็น “พาราเซตามอล”

ชาวทวิตเตอร์จึงทดลองนำภาพนี้ไปถามบรรดาคุณหมอและคุณพยาบาลที่พวกเขารู้จักว่ามันแปลว่าพาราเซตามอลจริงๆ หรือ และคำตอบที่พวกเขาได้ก็คือยาพาราเซตามอลจริงๆ

หนุ่มสงสัย “ลายมือหมอ” จะอ่านออกจริงหรือไม่ เลยส่งให้ญาติได้ดู พบอ่านออกจริงจริ๊ง!!

อย่างไรก็ตาม ทวิตเตอร์บัญชี @ryinbed ได้มีการนำลายมือนี้ไปถามชายหนุ่มที่เป็นหมอ และเธอก็ได้รับคำตอบคล้ายๆ กับคนอื่นๆ แต่บทสนทนาที่ทั้งคู่คุยกัน กลับทำให้หลายๆ คนใจละลาย

 

 

ภาพแชทที่ทั้งสองคุยกัน

 

เพราะเมื่อหญิงสาวถามชายหนุ่มว่า “อ่านทวิตมาก่อนหรือรู้เองอ่ะ” และชายหนุ่มตอบด้วยความละมุนว่า “ผมเรียนหมอนะ เผื่อคุณลืม” ทำให้สาวๆ หลายคนใจถึงกับเขินกันเลยทีเดียว

อีกทั้งการใช้คำพูดเรียกแทนกันว่า ‘คุณ’ กับ ‘ผม’ ยิ่งทำให้ชายหนุ่มดูเป็นคนสุภาพและอ่อนโยนสุดๆ ไปเลย

เมื่อเจ้าของทวิตเตอร์เผยแพร่ทวีตนี้ออกไป ก็มีคนรีทวีตกว่า 30,000 คน อีกทั้งยังมีหลายๆ คนออกมาแสดงความคิดเห็นต่อรูปภาพนี้ ดังนี้

 

เขินสุดๆ ไปเลย

 

อบอุ่นราวกับไมโครเวฟ

 

ภาษาน่ารักมากจริงๆ

 

เราอ่านแล้วยังหน้าแดงเลย

 

ประโยคนี้ถือว่าเป็นการส่งไม้ต่อจากพี่ดุนะ หนูไหวเหรอเลยทีเดียว เพราะมันได้กลายเป็นแฮชแท็กยอดนิยมของเหล่าชาวทวิตเตอร์ที่มีคนกล่าวถึงไปแล้วกว่า 120,000 ทวีตเลยทีเดียว

 

#เหมียวฝึกหัดหมายเลข27 อ่านบทสนทนาของทั้งคู่แล้วยังเขินเลย ยังกับอ่านนิยายเรื่องหนึ่งเลยแหละ >////<

 

ที่มา: @ryinbed


Tags:

Comments

Leave a Reply