สรุปประเด็น “แม่ค้ากามลูกสาววัย 5 ขวบ” แท้จริงหนุ่มใหญ่ซื้อบริการอาจเป็น “พ่อแท้ๆ” ของเด็ก

เรียกได้ว่าเป็นประเด็นอันน่าสลดใจที่กำลังถูกพูดถึงอย่างหนาหูในช่วงนี้ หลังจากที่ได้มีการจับกุมตัวชายวัย 52 ปี กระทำชำเราหนูน้อยวัย 5 ขวบ ณ พื้นที่ ต.หนองยาว อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา

ชายผู้ก่อเหตุและแม่ของเด็กที่ถูกกระทำชำเรา

จากการรายงานโดยเพจ ที่นี่แปดริ้ว เบื้องต้นพบว่า ตำรวจได้รับแจ้งจากชาวบ้านผู้เห็นเหตุการณ์ว่า มีรถกระบะต้องสงสัยมาจอดอยู่ในบริเวณเดิมตั้งแต่ประมาณเดือนพฤศจิกายน 2018 ก่อนที่จะมีผู้หญิงนำเด็กมาส่งให้ที่รถ

หลังจากนั้นประมาณ 1 ชั่วโมง รถกระบะก็จะขับออกไป ซึ่งจะเห็นเป็นประจำในทุกวันพฤหัสบดีและวันอาทิตย์

กระบะต้องสงสัยคันดังกล่าว

จากคำบอกเล่าของชาวบ้าน ทำให้ในวันที่ 21 เมษายน 2019 เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าทำการบุกค้นรถกระบะต้องสงสัย พบ นายวินัย พรหมทองสุข วัย 52 ปี เจ้าของรถอยู่ในสภาพถอดเข็มขัด ปลดซิปกางเกง

ด้านข้างรถกระบะพบเด็กหญิงวัย 5 ขวบ (ไม่ระบุชื่อ) อยู่ในสภาพถอดกางเกง อยู่ในอาการตกใจ

นายวิชัยถูกจับกุมตัวพร้อมให้การสารภาพหมดเปลือก บอกว่าตนเองได้ติดต่อซื้อบริการเด็กหญิงวัย 5 ขวบคนนี้มาจากแม่ของเธอด้วยเงิน 250 บาทต่อครั้ง พร้อมบอกว่าทำอย่างนี้มานานเกือบปีแล้ว

การเข้าจับกุมตัวนายวิชัย

นายวิชัยกล่าวว่าถ้าวันไหนตนไม่มีอารมณ์ จะใช้เซ็กส์ทอยกระทำชำเรากับทางอวัยวะเพศหรือทวารหนักของเด็กแทน

จากคำให้การดังกล่าว ทำให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าสอบถามกับทาง น.ส.ศุภลักษณ์ วัย 28 ซึ่งเป็นแม่ของเด็ก โดยเธอยังคงให้การคลุมเครือ และยังไม่ยอมเซ็นชื่อในใบรับสารภาพ

อย่างไรก็ตาม เธอยอมรับว่าตนเองได้ขายบริการลูกสาวจริงด้วยเงินจำนวนดังกล่าว โดยอ้างว่าทำไปเพราะสภาพครอบครัวย่ำแย่

การสอบปากคำ น.ส.ศุภลักษณ์ ผู้เป็นแม่ของเด็ก

ล่าสุด มีการเผยแพร่ข้อมูลเพิ่มเติมจากคำให้การของ น.ส.ศุภลักษณ์ ว่า แท้จริงแล้วนายวินัยนั้นเป็น “พ่อแท้ๆ” ของเด็ก?!

โดย น.ส.ศุภลักษณ์ กล่าวว่าตนเองเคยมีความสัมพันธ์กับนายวินัยมานาน และเคยบอกเขาไปแล้วว่านี่คือลูกแท้ๆ ของตน แต่นายวินัยไม่ยอมรับในเรื่องนั้น เธอจึงต้องหาคนรับรองเป็นบุตรแทน

ทั้งนี้ เบื้องต้นนายวินัยได้ถูกแจ้งข้อกล่าวหา กระทำชำเรา อนาจารเด็กอายุ 5 ขวบ ส่วน น.ส.ศุภลักษณ์ ถูกแจ้งข้อหา ค้ามนุษย์

ทั้งคู่จะถูกนำตัวไปทำแผนประทุษกรรมวินาทีลงมือข่มขืน และเข้าฝากขังที่ศาลในวันนี้ (23 เมษายน 2019) โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะยังคงสืบหาข้อเท็จจริงเพิ่มเติมต่อไป

โพสต์ต้นทาง

.

.

ที่มา: รถตระเวนข่าว V.2 , ที่นี่”แปดริ้ว” , ที่นี่”แปดริ้ว”_2