“Grauballe Man” มนุษย์พรุพีตแห่งเดนมาร์ก กับการเสียชีวิตที่ยังไม่แน่ชัดแม้ในปัจจุบัน

เคยได้ยินเรื่องราวของ “Grauballe Man” กันไหม นี่คือหนึ่งใน “มนุษย์พรุพีต” ร่างของมนุษย์โบราณที่ได้รับการรักษาไว้โดยธรรมชาติเนื่องจากถูกฝังไว้ในพื้นที่แบบบึงโคลน ซึ่งมักถูกพบในยุโรป และมีลักษณะเด่นอยู่ที่การที่ยังคงมีหนังและอวัยวะภายในอยู่ ต่างไปจากมัมมี่ของประเทศทางตะวันออก

 

 

Grauballe Man ถูกพบในเดนมาร์กเมื่อวันที่ 26 เมษายน ค.ศ. 1952 โดยเขาเป็นชายอายุราวๆ 30 ปี ผู้มีผมสีน้ำตาลแดง ที่ถูกทิ้งไว้ในโคลนในสภาพเปลือย และถูกเชื่อว่าเป็นช่างตัดไม้จากศตวรรษที่ 19 ในช่วงแรกๆ ที่มีการค้นพบ

อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบร่างที่พบในเวลาหลายปีต่อมา นักวิทยาศาสตร์ก็พบว่า Grauballe Man นั้น จริงๆ แล้วมีที่มาต่างจากที่เราคิดมาก เพราะมือของเขายังไม่มีร่องรอยของการใช้แรงงานเลย ดังนั้นจึงไม่น่าใช่ช่างตัดไม้อย่างที่เราคิด

 

 

เท่านั้นยังไม่พอจากการตรวจสอบอายุด้วยคาร์บอนกัมมันตรังสี เรายังทราบอีกว่าจริงๆ แล้ว Grauballe Man เป็นคนที่อาศัยอยู่ในช่วงปลายยุคเหล็กหรือราวๆ 310-56 ปีก่อนคริสตกาล ซึ่งนานกว่าที่เราคาดไว้ในตอนแรกเป็นหลายพัน ปีเลย

เป็นไปได้ว่าชายคนดังกล่าวน่าจะเสียชีวิตมาจากการเชือดที่คอ อย่างไรก็ตามนอกจากแผลที่คอแล้วเขามีร่องรอยของแผลกระแทกที่ศีรษะ แถมในกระเพาะของเขายังมีร่องรอยของสมุนไพรกว่า 30 ชนิด และหญ้าที่มีเชื้อราเป็นพิษในกลุ่มเออร์ก็อต (Ergot) อยู่ด้วย ทำให้ความตายของชายคนนี้ดูจะมีเบื้องหน้าเบื้องหลังกว่าที่คิด

 

 

หนึ่งในทฤษฎีที่น่าสนใจเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นก็อย่างเช่น ชายคนนี้อาจจะป่วยเพราะราเออร์ก็อตจนไม่สามารถทำงานได้ คนที่รู้จักจึงพยายามรักษา (เป็นที่มาของสมุนไพรในกระเพาะ) แต่อาการของชายคนนี้กลับเลวร้ายลงเรื่อยๆ จนมีอาการประสาทหลอนซึ่งเป็นหนึ่งในอาการของราเออร์ก็อต ดังนั้นสุดท้ายเขาจึงถูกสังหารทิ้งด้วยการเชือดคอ

นอกจากนี้ยังมีความเป็นไปได้ที่ทำให้ชายคนดังกล่าวอาจเสียชีวิตจากการประหารชีวิต หรือการโดนจับบูชายัญอยู่ด้วย โดยเฉพาะทฤษฎีที่ว่าเขาโดนจับบูชายัญนั้นเป็นทฤษฎีที่มีคนให้การยอมรับค่อนข้างมาก เพราะมันจะสามารถอธิบายได้เป็นอย่างดีว่าทำไมชายคนดังกล่าวถึงไม่มีร่องรอยการทำงานหนักเลย ทั้งๆ ที่มีชีวิตในยุคหิน

 

 

ไม่ว่าจะเป็นแบบไหนก็ตามในท้ายที่สุดร่างของ Grauballe Man ก็ถูกจัดแสดงไว้ที่พิพิธภัณฑ์ Moesgaard ในเมืองออฮุส และยังคงเปิดให้ประชาชนได้เข้าเยี่ยมชมมัมมี่สุดแปลกที่มีเบื้องหลังเป็นปริศนาร่างนี้เรื่อยมา แม้แต่ในปัจจุบัน

 

ที่มา ancient-origins

Comments

Leave a Reply