ทฤษฎีใหม่อ้าง “จักรพรรดิเนโร” อาจไม่ได้เป็นคนเลวร้ายอย่างที่เราคิด และแค่โดนใส่ร้าย

เมื่อพูดถึง “จักรพรรดิเนโร” แห่งอาณาจักรโรมันโบราณ เชื่อกันว่าหลายๆ คนคงจะต้องเคยได้ยินวีรกรรมสุดโหดอย่างการเผากรุงโรมของเขากันมาบ้าง แถมว่ากันตรงๆ ชายคนนี้ยังมีบันทึกว่าฆ่าแม่ตัวเอง ฆ่าน้องชาย แถมยังโหดร้ายจนทหารต้องลุกฮือขึ้นต่อต้านอีก

ว่าแต่เคยสงสัยกันไหมว่าเรื่องราวเลวร้ายของจักรพรรดิเนโรมันดูจะมีแต่ด้านแย่ๆ มากเกินไปนิดไหม ทำไมคนที่มีตำแหน่งสูงเป็นถึงจักรพรรดิกลับมีแต่เรื่องราวที่ไม่ดีบันทึกไว้เต็มไปหมดกัน

 

 

เพราะจากการลองมองต่างมุมและตรวจสอบเรื่องราวของจักรพรรดิคนนี้อีกครั้ง นักโบราณคดีก็พบกับความเป็นไปได้ที่ว่าจริงๆ แล้วจักรพรรดิเนโรอาจจะไม่ได้เลวร้ายอย่างที่เราคิด และเพียงแค่โดนใส่ร้ายก็เท่านั้น

จากข้อมูลที่สื่อต่างประเทศนำมาเปิดเผย จักรพรรดิเนโรนั้นขึ้นเป็นจักรพรรดิโรมันด้วยวัยเพียง 17 ปี แถมเจ้าตัวยังสนใจในศิลปะมากกว่าการปกครอง ทำให้แปลกมากที่เขาจะมีวีรกรรมที่ดูโหดร้ายบ้าอำนาจอย่างที่บันทึกไว้ทุกอย่าง (แม้ว่าเรื่องใช้เงินเป็นบ้าเป็นหลังน่าจะเป็นเรื่องจริง)

 

 

อย่างบันทึกที่มีการบอกว่าเนโรใช้ยาพิษที่ “ไร้สีไร้กลิ่น” ที่รุนแรงมากๆ กับน้องชายจนเขาตายไปในทันที” ก็เป็นเรื่องที่ฟังดูแปลกๆ เมื่อตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์ เพราะยาพิษในสมัยนั้นมักจะทำจากพืช และไม่รุนแรงพอที่จะสังหารคนในทันทีได้ หากผสมกับน้ำในระดับที่ไร้สีไร้กลิ่น

เท่านั้นยังไม่พอเพราะเรื่องการเผากรุงโรมของเนโรเองก็ไม่ได้มีหลักฐานว่าเขาเป็นคนทำจริงๆ แถมเดิมทีแล้วความคิดที่จะสร้างราชวังใหม่ของเนโร ก็ถูกชนชั้นสูงของโรมันมองว่าน่าอายและไร้สาระอยู่แล้วด้วย จึงเป็นไปได้ว่าการเผากรุงที่ว่านี้เป็นการใส่ร้ายล้วนๆ

 

 

ส่วนเรื่องที่เขาโหดร้ายจนทหารต้องลุกฮือขึ้นต่อต้านนั้นเป็นไปได้ว่าจริงๆ แล้วจะมาจากการที่ในสมัยของเนโร ตัวจักรพรรดิแทบจะไม่ทำสงครามกับใครเลย ทำให้อำนาจของทหารลดลงจากที่เคย และทำให้ทางทหารไม่พอใจกันนั่นเอง

น่าเสียดายที่แนวคิดด้านต้นนั้นไม่มีหลักฐานที่มายืนยันเท่าที่ควร ดังนั้นเรื่องที่ว่าเนโรถูกใส่ร้ายจึงยังเป็นเพียงแค่ทฤษฎีเท่านั้น แต่ถึงอย่างนั้นก็ตามเรากลับมีหลักฐานที่ว่าเนโรนั้นอาจจะเป็นที่รักของประชาชนกว่าที่เราคิดแทน

นั่นเพราะที่เมืองปอมเปอีนักโบราณคดีได้มีการค้นพบจารึกที่วาดด้วยมือของคนในสมัยนั้นที่มีการสรรเสริญจักรพรรดิเนโรจำนวนหนึ่ง ซึ่งหนึ่งในนั้นบอกว่า “ไชโยกับการตัดสินใจของจักรพรรดิและจักรพรรดินี เมื่อทั้งสองท่านปลอดภัย พวกเราจะมีสุขไปตลอดกาล”

 

 

เป็นไปได้ว่าจักรพรรดิเนโรจะเป็นบุคคลจำพวกที่ว่าเป็นที่รักของประชาชนรากหญ้า แต่กลับเป็นที่เกลียดชังของคนชั้นสูง และนักประวัติศาสตร์โบราณ ดังนั้นเรื่องราวของเขาจึงถูกบันทึกเอาไว้ว่าเป็นทรราชอย่างที่เราเห็นกัน

แต่สุดท้ายแล้วเราก็ไม่อาจจะรู้ได้เลยว่าเรื่องราวเบื้องหลังชีวิตของจักรพรรดิเนโรนั้นแท้จริงแล้วเป็นเช่นไร สิ่งเดียวที่เหล่านักโบราณคดีทราบคือมันอาจจะเป็นเรื่องดีกว่าก็ได้หากชายคนนี้ไม่ต้องมาเป็นจักรพรรดิ และได้ใช้ชีวิตอย่างสงบกับงานศิลปะที่เขารักก็เท่านั้น

 

ที่มา livescience และ infosurhoy

Comments

Leave a Reply