แชมป์โยโย่เล่าประสบการณ์ “ไม่มีเลือดไปเลี้ยง” บริเวณนิ้วชี้ จนต้องรับการรักษา

David Schulte หรือที่รู้จักกันในชื่อ Dazzling Dave เขาคืออดีตแชมเปี้ยนการแข่งขันโชว์ท่วงท่าลีลาการเล่น “โยโย่” (Yo-Yo) กวาดรางวัลมาแล้วมากมายหลายรายการ

 

David แชมป์โยโย่ ฉายา Dazzling Dave

 

แม้เขาอาจจะไม่ค่อยได้ขึ้นเวทีการแข่งขันแล้ว แต่ David ก็ได้ถูกพูดถึงอีกครั้ง หลังจากที่ในช่วงปี 2019 มีคนไปขุดเจอ “ภาพเอกซเรย์มือขวาของเขา”

เหตุผลที่ทำให้รู้สึกว่ามันน่าสนใจกว่ามือขวาของใครหลายๆ คนก็คือ ภาพจากการตรวจวินิจฉัยหลอดเลือด (ด้วยการฉีดสีเข้าหลอดเลือดและเอกซเรย์ดูการไหลเวียน) พบว่าบริเวณปลายนิ้วชี้ของเขากลับไม่มีเลือดไปเลี้ยงเลย?!

 

ภาพเอกซเรย์มือขวาของ David

 

David จึงได้ออกมาอธิบายภาพที่เราเห็นกันนี้ว่ามันคืออาการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นจากการเล่นโยโย่ซ้ำๆ ทุกวัน ติดต่อกันมานานหลายปี

เขาเล่าว่าอาการบาดเจ็บดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นในปี 2005 ในช่วงนั้นเขาเป็นอาจารย์สอนเด็กๆ ตามโรงเรียน เกี่ยวกับการเล่นโยโย่นี่แหละ โดยเขามักจะต้องเล่นมันแทบจะติดต่อกันนาน 8-12 ชั่วโมงในแต่ละวัน

 

 

David เริ่มสังเกตถึงความผิดปกติบางอย่างที่เกิดขึ้นกับ “นิ้วชี้มือขวา” คือในเวลาที่มือเริ่มเย็น ตรงส่วนของนิ้วชี้มักจะเย็นก่อนส่วนอื่นๆ เสมอ

หลังจากนั้น 1 สัปดาห์ เขาก็ยังไม่เอะใจอะไรมากนัก จนกระทั่งเมื่อเขาเดินทางกลับมาที่บ้านในรัฐมินนิโซตา เขาก็เริ่มเห็นว่าจู่ๆ นิ้วชี้นั้นก็เริ่มแดง แล้วก็กลายเป็นสีน้ำเงิน ก่อนที่จะกลายเป็นม่วงเข้ม

 

 

David จึงรีบเข้ารับการรักษาจากแพทย์ในทันที ซึ่งแพทย์แนะนำให้ใช้วิธีการตรวจวินิจฉัยหลอดเลือด จนพบว่าไม่มีเลือดไหลผ่านเข้าไปเกินข้อที่สองของนิ้วชี้เลย

ในตอนแรกนั้นแพทย์เชื่อว่ามันคือ “ลิ่มเลือด” แต่หลังจากนั้นพวกเขาก็พบว่าแท้จริงแล้วมันคือภาวะ Vasospasm หรือก็คือการบีบเกร็งของหลอดเลือดนั่นเอง

 

 

แพทย์อธิบายว่าภาวะดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นจากการที่นิ้วชี้ของ David ถูกดีดกลับและได้รับการกระแทกอยู่เสมอจากการเล่นโยโย่มานาน 7-10 ปี

ยิ่งเมื่อแพทย์ได้เห็นลักท่าทางการเล่นโยโย่ท่าโปรดของเขาด้วยแล้ว ซึ่งจะมีการเหวี่ยงลงไปและดีดกลับขึ้นมาตรงๆ แรงๆ แพทย์ก็บอกได้ทันทีเลยว่านั่นแหละคือสาเหตุ

 

 

แพทย์จึงต้องให้แชมป์เปี้ยนหนุ่มกิน “ยาต้านการแข็งตัวของเลือด” ติดต่อกันนาน 1 เดือนจนนิ้วชี้ของเขานั้นกลับมาอยู่ในสภาพปกติ

 

ทั้งหมดนี้ก็คือที่มาของภาพเอกซเรย์มือที่ดูผิดปกตินั่นเอง

 

ที่มา: livescience

Comments

Leave a Reply