“Saybie” ทารกที่ตัวเล็กที่สุดในโลก ออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว หลังสู้ชีวิตมากว่า 5 เดือน

เพื่อนๆ เคยได้ยินเรื่องราวของหนูน้อยที่ชื่อ “Saybie” กันไหม เธอคือเด็กที่ได้ชื่อว่าตัวเล็กที่สดในโลก ที่สามารถเอาชีวิตรอดจากการทำคลอด และออกจากโรงพยาบาลมาได้ ทั้งๆ ที่เธอนั้นมีน้ำหนักตัวแรกเกิดเพียงแค่ 245 กรัมเท่านั้น ซึ่งนับว่าตัวเบากว่าแอปเปิลลูกใหญ่ๆ เสียอีก

 

 

โดย Saybie เป็นเด็กผู้หญิงที่เกิดมาในเมืองซานดิเอโก รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เมื่อเดือนธันวาคม ค.ศ. 2018 ในภาวะคลอดก่อนกำหนด ด้วยอายุครรภ์เพียง 5 เดือน หรือหากจะให้ชี้ชัดๆ ก็ 23 สัปดาห์กับอีก 3 วันเท่านั้น

ด้วยความที่คลอดก่อนกำหนดนานมากนี้เอง Saybie จึงมีน้ำหนักตัวแรกเกิดที่ต่ำอย่างไม่น่าเชื่อ และแน่นอนว่าโอกาสรอดของเธอเองก็น้อยมากๆ จนแพทย์ถึงกับเคยบอกให้พ่อแม้ของเด็กทำใจ เพราะลูกของพวกเขาอาจมีชีวิตอยู่ได้แค่ 1 ชั่วโมง

 

 

แต่แทนที่จะยอมแพ้กับชะตากรรมของตัวเอง Saybie กลับต่อสู้เพื่อชีวิตของตัวเองอย่างเต็มที่ ทำให้จากเวลาหนึ่งชั่วโมง มันยืดยาวเป็น 2 ชั่วโมง 3 ชั่วโมง เรื่อยไปจนเป็นวัน เป็นสัปดาห์

อ้างอิงจากทางโรงพยาบาล นับว่าเป็นความโชคดีของหนูน้อยคนนี้มาก ที่เธอนั้นไม่มีอาการที่ทางการแพทย์ที่เด็กแรกเกิดมักจะเป็นกัน อย่างปัญหาเกี่ยวกับสมองเลือดออก หรือปอด และหัวใจเลย ดังนั้นแม้ว่าเด็กน้อยจะมีน้ำหนักน้อยมาก แต่ทางทีมแพทย์ก็ยังสามารถพยุงอาการของเด็กน้อยต่อไปได้

 

 

ท้ายที่สุดแล้วเมื่อเวลาผ่านไป 5 เดือน Saybie ก็มีน้ำหนักเพิ่มขึ้นมาเป็น 2.5 กิโลกรัม และมีร่างกายแข็งแรงขึ้น จนทางโรงพยาบาลลงความเห็นว่าเธอสามารถออกจากโรงพยาบาลได้ในที่สุด

นี่นับว่าเป็นปาฏิหาริย์เล็กๆ ที่ยิ่งใหญ่ของหนูน้อยคนหนึ่งเลยกว่าได้ เพราะอาการเกี่ยวกับการคลอดก่อนกำหนดนั้นส่วนมากแล้วจะแพทย์จะแทบไม่สามารถช่วยอะไรได้เลย ทำให้ความเป็นความตายของเด็กเหล่านี้ โดยมากจะขึ้นอยู่กับตัวเด็กเองล้วนๆ

 

 

อย่างไรก็ตามการต่อสู้ของ Saybie เองก็ใช่ว่าจะจบลงเท่านี้แต่อย่างไร เพราะตามปกติแล้วเด็กที่คลอดก่อนกำหนด จะมีความเสี่ยงที่จะมีปัญหาในการเจริญเติบโต ทั้งทางร่างกายและทางสมองสูง

ดังนั้นหลังจากนี้ไปอีกหลายปี Saybie จึงยังมีความจำเป็นที่จะต้องแวะเวียนมาตัวอาการที่โรงพยาบาลหรือคลินิกต่อไป ท่ามกลางความเชื่อมั่นของหลายๆ ฝ่ายว่าเด็กคนนี้จะต้องผ่านมันไปได้ด้วยดีอย่างแน่นอน

 

ที่มา livescience, bbc, businessinsider

Comments

Leave a Reply