'หมอลิลลี่' เผย มีคนทักมาว่า 'เป็นมะเร็งระยะสุดท้าย' แต่พอจะไปเยี่ยม กลับต้องหงายเงิบ

เรื่องนี้กำลังได้รับความสนใจบนโลกออนไลน์มากขึ้นเรื่อยๆ ในมุมมองที่ว่า “ความเป็นความตายไม่ใช่เรื่องตลก” เมื่อคุณหมอคนสวยที่หลายคนรู้จักกันในชื่อ ‘หมอลิลลี่’ ได้เผยถึงข้อความที่มีคนทักมาบอกว่าเขาป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย…

หมอลิลลี่

เรื่องราวดังกล่าวเริ่มต้นขึ้นเมื่อช่วงกลางดีกที่ผ่านมา หมอลิลลี่ เล่าว่าจู่ๆ ก็มีคนบอกว่าเขาเป็นแฟนคลับที่ติดตามเธอมานานมาก และตอนนี้ก็ป่วยเป็นมะเร็งต่อมน้ำลายระยะสุดท้าย ด้วยเหตุนั้นเธอจึงอยากที่จะได้พูดคุยกับเขา และหาโอกาสไปเยี่ยม

คอมเมนต์ที่บอกว่าเขาป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย

ภาพจากโพสต์ของเธอเมื่อช่วงกลางดึก

คนอื่นๆ ต่างเข้ามาคอมเมนต์ให้กำลังใจและชื่นชมคุณหมอในโพสต์นั้น จนกระทั่งวันนี้ (11 มีนาคม 2565) หมอลิลลี่ ก็ได้โพสต์เล่าเรื่องราวเพิ่มเติม หลังจากที่แฟนคลับคนดังกล่าวได้ติดต่อกลับมาหาเธอจริงๆ

โดย หมอลิลลี่ ก็ยังได้โพสต์แชทข้อความที่ทั้งสองคุยกันเกี่ยวกับเรื่องราวอาการป่วย ซึ่งเธอก็ได้ขอข้อมูลห้องพักพร้อมกับบอกด้วยว่าจะไปเยี่ยมเขาให้ได้ แต่แล้วบทสรุปของเรื่องก็กลายเป็นสิ่งที่เธอไม่คาดฝันมาก่อน

เราลองไปดูแชทข้อความที่ว่านี้พร้อมๆ กันเลย

จากเรื่องที่เกิดขึ้น ก็ทำให้ หมอลิลลี่ โพสต์ข้อความเผยถึงความรู้สึกของตัวเองเอาไว้ว่า…

“เมื่อวานมีคนบอกเราว่าเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย ด้วยความเป็นห่วงในฐานะเพื่อนมนุษย์จึงอยากไปเยี่ยม เพราะเค้าบอกเค้ากำลังจะเสียชีวิต

เราลางานตอนเช้าที่ รพ. เพื่อจะไปเยี่ยม วันนี้ตื่นแต่เช้า คิดว่าซื้อขนมไปฝาก (เราซื้อแล้ว) เพราะเค้าบอกอาจมีชีวิตอยู่ได้ไม่กี่วันแล้ว..

ตอนเช้าก่อนไป จึงโทรไปเช็คกับทาง รพ.นนทเวช ที่เค้าอ้างว่ารักษาตัวอยู่.. เช็คยังไง ก็ไม่มีห้องนี้ เพราะรพ. มีวอร์ดตั้งแต่ชั้น9 ขึ้นไป

เราก็ไม่ท้อเช็คหลายรอบมาก เพราะเชื่อใจว่าไม่น่ามีใครเอาเรื่องความเป็นความตายมาล้อเล้น เราจึงแจ้งเค้ากลับไปว่า รพ. บอกว่าไม่มี หรือเค้าบอกรายละเอียดผิด

เค้าก็โทรมาแจ้งว่า จะให้คุยกับพยาบาล แต่เราบอก ขอ H.N. ก็พอ เด๋วเราเช็คอีกที (รอบที่ 3 แล้ว) สุดท้ายไม่มี เค้าได้ยอมรับว่า แต่งเรื่องขึ้นมา..

สำหรับเรา เราว่า.. เรื่องความเป็นความตายไม่ควรมาล้อเล่นมากๆๆ เราในฐานะเพื่อนมนุษย์คนหนึ่งที่เห็นใจ เจอแบบนี้แล้วช็อคเหมือนกัน สักวันถ้าคุณป่วยจริง อาจไม่มีคนเชื่อแล้วนะ

อ่อ เราไม่ได้บล็อกเค้าด้วย เค้าพิมพ์เสร็จ หัวเราะ แล้วก็บล็อกเราเฉย.. เรายังไม่ทันถามเค้าเลย ว่าทำแบบนี้ทำไม..”

ภาพนี้แสดงให้เห็นว่าเธอโทรไปเช็คกับทางโรงพยาบาลหลายรอบมาก

ท้ายที่สุดแล้ว เธอยังบอกด้วยว่า เธอยอมรับว่าตัวเองโง่จริง เพราะเธอเห็นคุณค่าของคนเท่ากันหมด ไม่ว่ารูปโปรไฟล์ในเฟซบุ๊กจะเป็นยังไงก็ตาม เธอให้ความสำคัญกับทุกคน…

“เราไม่อยากให้คนที่ป่วยใกล้เสียชีวิต รู้สึกโดดเดี่ยว ก็แค่อยากไปให้กำลังใจในฐานะเพื่อนมนุษย์คนหนึ่ง”