ย้อนกลับไปเมื่อราว ๆ 2 ปีก่อน เชื่อว่าหลาย ๆ คนอาจจะเคยเห็นข่าวนี้ผ่านตามาบ้าง
เป็นเรื่องราวปัญหาระหว่างเพื่อนบ้าน เรื่องของเรื่องก็คือมีครอบครัวบังเอิญทำน้องแมวหลุดออกจากบ้านไป แล้วเจ้าแมวตัวแสบก็ดันปีนขึ้นไปบนรถหรูของเพื่อนบ้าน 2 คัน
ล่าสุดก็มีอัปเดตเพิ่มเติมมาแล้ว จะเป็นยังไงลองไปติดตามชมกันครับ…
เรื่องของเรื่องก็คือ วันนี้ (7 กุมภาพันธ์ 2565) นางบี (นามสมมุติ) ที่เป็นเจ้าของแมวในข่าวนี้ ได้ออกมาโพสต์คลิปวิดีโอเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้น และเรียกร้องความเป็นธรรม
โดยเล่าว่าเรื่องเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 ต.ค. 2563 ลูกของเธอมาเล่าว่าในช่วงเช้าเปิดประตูกำลังจะออกไปขึ้นรถโรงเรียน แมวในบ้านก็วิ่งออกไปท่ามกลางฝนที่ตกอยู่
ลูกก็ตามหาอยู่สักพักแต่ไม่เจอเลยต้องขึ้นรถไปก่อน กระทั่งช่วงบ่าย เพื่อนบ้านที่เป็นคู่กรณี ก็ส่งคลิปแมวของเธอปีนรถสปอร์ตยี่ห้อโลตัส สีเหลือง และรถ BMW สีดำไปให้สามีของเธอดู
สามีจึงบอกให้นางบีทราบ และจะขอเข้าไปดูความเสียหายที่แมวได้ทำไว้
ภาพจากคลิปกล้องวงจรปิด
.
ปรากฏว่าพอเข้าไปดูก็เห็นเพียงรอยเท้าแมวเปื้อนดิน สามีก็ถามเพื่อความแน่ใจว่ารอยที่เกิดขึ้นนี้ไม่ได้มาจากการใช้งานหรือไม่?
คู่กรณีก็ยืนยันว่าเกิดจากแมว และเรียกร้องค่าเสียหายมาเป็นเงินจำนวน 100,000 บาท โดยบอกว่าไปประเมินราคามาเรียบร้อยแล้ว พร้อมกับบอกว่าจะจ่ายสดหรือผ่อนก็ได้ แต่ถ้าไม่จ่ายจะแจ้งความ
นางบีเล่าว่าตอนแรกก็คุยไกล่เกลี่ยกัน ยอมรับว่าผิดจริงที่ปล่อยแมวออกไป แต่มันเป็นเหตุสุดวิสัย พร้อมที่จะใช้ค่าเสียหายที่สมเหตุสมผลไม่ได้นิ่งดูดายแต่อย่างใด
แต่เธอทราบมาว่าเขาซื้อรถยี่ห้อโลตัสมือสองคันนี้ผ่านมาถึงเขาเป็นมือที่ 4 แล้ว และเอาออกไปใช้งานบ่อย จึงต้องข้อสงสัยว่าจะเกิดจากร่องรอยอื่นหรือไม่?
อีกทั้งก่อนเกิดเรื่องก็เคยมีสุนัขจรจัดวิ่งเข้าไปตะกุยตะกายรถเขา เพราะไม่ชอบปิดประตูบ้าน แต่ก็ยังตกลงกันไม่ได้
.
จนไม่นานก็มีหมายเรียกจากตำรวจ สภ.ลำลูกกาให้ไปรับทราบข้อกล่าวหา “ปล่อยปละละเลยให้สัตว์ดุ หรือสัตว์ร้ายเที่ยวไปโดยลำพังในประการที่อาจทำอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์”
ซึ่งตำรวจบอกให้รับสารภาพว่าเป็นแมวตัวเองจริง ส่วนเรื่องอื่นก็ให้ไปสู้กันในชั้นศาล ในวันนั้นก็ได้มีการเสียค่าปรับไปเป็นจำนวน 500 บาท
ต่อมาก็ได้มีการนัดไกล่เกลี่ยกันเรื่องคดีความที่ศาลถึง 2 ครั้ง ซึ่งคู่กรณีไม่มาเลยสักครั้ง จนกระทั่งครั้งสุดท้ายไปพบกันก็ตกลงไม่เอาเรื่องกัน ฝ่ายนั้นไม่ติดใจเอาความอะไร
แต่พอตกเย็นมาคู่กรณีก็มาหาที่บ้าน บอกว่าให้โอนเงิน 50,000 บาท ไปให้เขา โดยไม่ต้องบอกใคร แต่เธอก็ไม่ยอม บอกให้ไปคุยกันดี ๆ มีหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษร เขาก็ไม่ยอม
เลยตั้งข้อสังเกตว่าจะเป็นการเรียกเงินไปเปลี่ยนสีสติ๊กเกอร์รถใหม่หรือไม่? เพราะตอนนี้รถเปลี่ยนเป็นสีอื่นแล้ว เรื่องก็เลยลากยาวมาหลายปีเช่นนี้
.
อย่างไรก็ตามศาลชั้นต้นตัดสินให้นางบีจ่ายค่าเสียหายให้คู่กรณีเป็นจำนวนเงิน 57,000 บาท อีกทั้งยังถูกบริษัทประกันภัยของรถ BMW ฟ้องร้องค่าเสียหายเป็นเงินอีก 59,000 บาท
ซึ่งหลังจากนี้ในเรื่องของคดีรถโลตัส เธอจะทำการยื่นอุทธรณ์ต่อไป อีกทั้งยังเรียกร้องขอความยุติธรรม เพราะมองว่ามันไม่ถูกต้อง
เรื่องทั้งหมดก็ประมาณนี้ครับ เพื่อน ๆ คิดเห็นอย่างไรกับประเด็นนี้ ลองคอมเมนต์เข้ามาแลกเปลี่ยนกันได้เลยนะ
เรียบเรียงโดย #เหมียวหง่าว
ติดตาม CatDumb ได้ในช่องทางอื่นๆ
Website: www.CatDumb.com
Youtube: www.youtube.com/c/CatDumbTV-Youtube
Instagram: www.instagram.com/catdumbnews/
TikTok: www.tiktok.com/@CATDUMBtv