Tag: daily life

  • 23 ภาพการ์ตูนจากหญิงสาว ที่บอกถึงสไตล์ชีวิตที่ใช้ร่วมกับน้องหมาได้โดนใจ

    23 ภาพการ์ตูนจากหญิงสาว ที่บอกถึงสไตล์ชีวิตที่ใช้ร่วมกับน้องหมาได้โดนใจ

    สำหรับศิลปินหลายท่านแล้ว แรงบันดาลใจในการสร้างผลงานศิลปะอาจจะไม่ได้ยิ่งใหญ่อะไรมาก บางครั้งก็เป็นเพียงเรื่องราวรอบตัวในชีวิตประจำวันนี่แหละ ศิลปินสาว Gemma Gené เองก็เป็นแบบนั้นเหมือนกัน แรงบันดาลใจในการสร้างการ์ตูนสั้นของเธออย่างหนึ่งก็คือเจ้าหมาปั๊กแสนรักที่ชื่อ Mochi นี่เอง จุดเริ่มต้นการวาดการ์ตูนสั้นเรื่องนี้ก็ไม่ได้มีอะไรซับซ้อนเลย เธอแค่คิดถึงเจ้าหมาเวลาที่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน ก็เลยวาดการ์ตูนเกี่ยวกับมันเพื่อให้ตัวเองหายคิดถึงเจ้าหมา แต่การ์ตูนสั้นนี้ก็เป็นการบอกเล่าเรื่องราวในชีวิตของเธอกับเจ้าหมาแบบน่ารักๆ ได้เป็นอย่างดี ใครได้อ่านก็คงต้องยิ้มตามไปด้วย   1. ฉันมีหมาอยู่ตัวหนึ่งชื่อว่า Mochi สิ่งที่พิเศษที่สุดสำหรับเจ้าหมาก็คือความน่ารักของมันนี่แหละ   2. มันติดฉันมาก ถ้าฉันไม่อยู่ด้วยมันก็จะเอาของที่มีกลิ่นของฉันไปนอนกอดตลอด   3. แต่สำหรับแฟนฉันที่อยู่บ้านด้วยกัน ไม่รู้ทำไมมันถึงรักเขาน้อยกว่าฉัน   4. โดยปกติแล้วถ้าฉันอยู่บ้าน มันก็จะตามฉันไปทุกหนทุกแห่ง   5. แล้วก็ชอบมาเกาะแกะไม่ยอมปล่อยด้วย   6. ทำให้บางครั้งฉันก็ไม่ได้ทำกิจกรรมอื่นเลยนอกจากเล่นกับมัน   7. เจ้าหมาจะเรียกให้ฉันช่วยแทบทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรีื่องเล็กน้อยแค่ไหน   8. แม้แต่ประตูที่แง้มอยู่มันก็ไม่ยอมผลักเข้ามาเอง ต้องเรียกให้ฉันไปเปิดให้ทุกครั้งไป เฮ่อ   9. อีกอย่างหนึ่งคือมันชอบนอนมากเลย พอถึงเวลานอนปุ๊บก็หลับปุ๋ยปั๊บ ว่าง่ายมาก   10.…

  • 22 ภาพปัญหาที่คุณอาจไม่มีทางเข้าใจได้เลย เพราะมันเป็นเรื่องของ ‘คนถนัดซ้าย’

    22 ภาพปัญหาที่คุณอาจไม่มีทางเข้าใจได้เลย เพราะมันเป็นเรื่องของ ‘คนถนัดซ้าย’

    สิ่งของส่วนใหญ่ในโลกนี้มักจะถูกสร้างมาสำหรับคนถนัดขวา ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติเพราะว่าคนส่วนใหญ่ในโลกนี้ถนัดใช้มือขวากัน แต่ถ้าเกิดคุณเป็นคนถนัดซ้ายล่ะก็ สิ่งเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตประจำวันก็เป็นอุปสรรคใหญ่สำหรับคุณได้ มาดูกันว่าคนถนัดซ้ายต้องพบเจอปัญหาอะไรบ้างในโลกที่ถูกสร้างมาเพื่อคนถนัดขวา   ถ้าคนเป็นถนัดขวาทั่วไปล่ะก็คงจะมองว่าการใช้สมุดแบบห่วงมันสะดวกสบายดี เพราะว่าเปิดง่าย ฉีกง่าย   แต่ถ้าเกิดมาเป็นคนถนัดซ้ายเราก็จะได้รอยแผลจากการใช้สมุดแบบห่วงทุกครั้งไป ก็เขียนยังไงมันก็ติดห่วงอะ   แล้วเราก็จะมีปัญหากับการใช้แฟ้มแบบห่วงเหล็กเช่นกัน ฮึ่ย   นอกจากนี้เวลาเราเขียนอะไรก็ตามด้วยปากกาหมึกซึม หรือปากกาที่หมึกแห้งช้า …   มือก็จะต้องเลอะหมึกตลอดเลย!! แถมยังล้างยากอีกต่างหาก!!   เพราะฉะนั้นเวลาจะต้องเขียนข้อความบนกระดาน ก็ไม่ต้องสงสัย …   มือก็จะเลอะเหมือนกันนั่นแหละ เห้อออ   นอกจากสมุดแล้ว ของอย่างอื่นในโลกก็ไม่เหมาะกับคนถนัดซ้ายเลยสักนิด ดูอยู่ที่เปิดกระป๋องนี่สิ คนถนัดซ้ายจะใช้ยังไง!?   ที่ตักไอศกรีมนี่ก็อีก ทำไมต้องเอาที่กดไว้ทางขวาอย่างเดียวด้วยฟระ   แถมเวลาต้องนั่งเรียนในห้องที่เป็นเก้าอี้พับแบบนี้ เราก็จะวางแขนไม่ได้เหมือนคนถนัดขวา   ซ้ำร้ายถ้าต้องนั่งชิดกับเพื่อนแขนก็ยังชนกันจนเพื่อนนึกว่าเราสะกิดเรียกด้วย แต่เปล่าเลยตูแค่ต้องวางแขนทางซ้ายต่างหาก   เพราะฉะนั้นถ้าไม่อยากจะให้แขนชนกับเพื่อนเวลาไปกินข้าว จนทำให้ทั้งเราและเพื่อนเสียอารมณ์ เราก็ต้องนั่งขอบโต๊ะด้านซ้ายสุดเท่านั้น ใครจะมาแย่งไม่ได้   แถมเวลาใช้กรรไกรตัดของก็ทำได้อย่างยากลำบาก เพราะที่จับมันทำมาสำหรับคนถนัดขวา   ถ้าอยากจะใช้กรรไกรสบายๆ ก็ต้องไปพลิกโลกหาซื้่อกรรไกรของคนถนัดซ้ายที่เจอยากยิ่งกว่าแรร์ไอเท็มเสียอีก…

  • ความแตกต่างของเด็กในเกาหลีเหนือ กับเด็กทั่วโลก มาดูกันว่าวิถีชิวิตเด็กที่นั่นเป็นอย่างไร

    ความแตกต่างของเด็กในเกาหลีเหนือ กับเด็กทั่วโลก มาดูกันว่าวิถีชิวิตเด็กที่นั่นเป็นอย่างไร

    วิถีชีวิตของคนในประเทศที่ปิดกั้นตัวอย่างเองอย่างเกาหลีเหนือนั้น เป็นสิ่งที่เรามีข้อมูลอยู่น้อยนิดมาก นานๆ ทีเราจะได้มีโอกาสเห็นภาพหรือข่าวเกี่ยวกับเรื่องในประเทศเกาหลีเหนือสักครั้ง นอกจากนี้เกาหลีเหนือยังปิดกั้นข้อมูลส่วนใหญ่จากภายนอกไม่ให้คนในประเทศรู้อีกด้วย แล้วในประเทศปิดแบบนี้เด็กเล็กจะใช้ชีวิตกันอย่างไรบ้าง วันนี้เราได้ลองรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเด็กในเกาหลีเหนือมาให้เพื่อนๆ แล้ว ไปดูกันว่าพวกเขาจะใช้ชีวิตต่างกับเด็กในประเทศอื่นอย่างไรบ้าง   1.ทารกเกิดใหม่ก็มีชั้นวรรณะแล้ว   เด็กทารกที่เกิดในประเทศเกาหลีเหนือจะได้รับชั้นวรรณะ หรือที่คนเกาหลีเหนือเรียกว่า ‘songbun‘ โดยวรรณะจะแบ่งเป็น 3 ชนชั้นก็คือ มีความจงรักภักดี เป็นกลาง และเป็นภัยต่อสังคม ซึ่งชั้นวรรณะที่ทารกได้รับนั้นจะเป็นแบบเดียวกับพ่อแม่ของตัวเอง และชั้นวรรณะเหล่านี้จะใช้เป็นตัวกำหนดว่าเด็กคนนั้นสามารถเข้าเรียนที่ไหนได้บ้าง และทำงานแบบไหนได้บ้าง เหมือนว่าเกิดมาก็ถูกกำหนดทางเดินชีวิตไว้เลย   2.เด็กทุกคนที่นี่ต้องเข้าเรียนชั้นอนุบาล   เด็กๆ สามารถเลือกเข้าไปเรียนในชั้นอนุบาลได้ตั้งแต่อายุ 4 ปี แต่ถ้าหากว่าอายุ 5 ปีแล้วทางรัฐบาลจะบังคับให้เด็กทุกคนไปเรียนตามกฎหมาย นอกจากนี้เด็กทุกคนที่ต้องการเรียนหนังสือต้องเคยเข้าเรียนชั้นอนุบาลมาก่อนเป็นเวลาอย่างน้อย 1 ปีด้วย ไม่สามารถข้ามไปเรียนชั้นประถมได้ทันทีเลย   3.เด็กกำพร้าบางคนก็มีพ่อแม่เหมือนคนทั่วไป   สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าในประเทศเกาหลีไม่ได้รับเลี้ยงเฉพาะเด็กที่ไม่ทราบว่าพ่อแม่เป็นใครเท่านั้น หากว่าพ่อแม่คู่ไหนมีเงินไม่พอจะเลี้ยงลูก ก็สามารถส่งลูกไปให้กับสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าได้เช่นกัน นอกจากนี้ถ้าเกิดรับเลี้ยงเด็กไปแล้วแต่เงินไม่พอเลี้ยงทีหลัง ก็ส่งตัวกลับมาได้ด้วย   4.กิจกรรมและการเรียนการสอนล้วนแฝงไปด้วยแนวคิดรักชาติ   ในโรงเรียนของเกาหลีเหนือ มักจะมีโปสเตอร์เกี่ยวกับการเมืองติดไว้ตามทางเดินให้เด็กๆ ได้ดูกัน และเวลาที่จัดปาร์ตี้ให้กับเด็กๆ แทนที่จะได้แต่งตัวเป็นตัวการ์ตูนที่ชอบ…