Tag: Ad

  • สลับสับเปลี่ยนตำแหน่งตัวละคร ในโฆษณาเหยียดเพศยุคอดีต เกิดมุมมองใหม่ขึ้นมาเลย!!

    สลับสับเปลี่ยนตำแหน่งตัวละคร ในโฆษณาเหยียดเพศยุคอดีต เกิดมุมมองใหม่ขึ้นมาเลย!!

    ในช่วงปี 1950 ภาพของผู้หญิงในอุดมคติของสมัยนั้น คือการเป็นภรรยาที่ดีซึ่งคอยปัดกวาดเช็ดถูดูแลบ้านทั้งวัน หมั่นเข้าครัวทำอาหารให้สามีกิน คอยดูแลลูกในขณะที่สามีออกไปทำงาน อาจพูดได้ว่าเป็นเหมือนคนใช้ให้กับคุณสามีก็ได้ นอกจากจะเป็นภาพในอุดมคติแล้ว มันยังถูกนำไปใช้ในโฆษณาของสมัยนั้นเป็นจำนวนมากอีกด้วย เมื่อ Eli Rezkallah นักตัดต่อภาพจากเมืองเบรุต ประเทศเลบานอนได้เห็นภาพเหล่านี้ เธอจึงเกิดไอเดียที่จะลองสลับตำแหน่งของผู้หญิงและผู้ชายในโฆษณาดูบ้าง Rezkallah ไม่ชอบที่คนบางกลุ่มคิดว่าผู้หญิงควรที่จะเป็นแม่บ้านแม่เรือนคอยรับใช้ผู้ชายเท่านั้น เธอไม่ชอบให้ใครมากำหนด ‘หน้าที่ของผู้หญิง’ ตามความคิดของตัวเอง เธอเลยอยากให้คนกลุ่มนั้นเห็นว่าหากผู้ชายโดนเหยียดเพศในโฆษณาบ้าง จะรู้สึกเจ็บแสบขนาดไหน   1.ผู้ชายเขาไม่ออกจากห้องครัวกันหรอก   2.แสดงให้หนุ่มๆ รู้ว่า โลกนี้เป็นของผู้หญิง   3.ห๊ะ ผู้ชายผอมแห้งแรงน้อยก็เปิดขวดนี้ได้งั้นเหรอ เปิดง่ายอะไรขนาดนั้น!?   4.อย่าให้ภรรยาของคุณจับได้เชียว ว่าคุณไม่ได้ใช้กาแฟสดชั้นเลิศชงให้เธอดื่มทุกเช้า เลือกใช้กาแฟ Chase & Sanborn สิครับ   5.แค่เพียงได้เห็นกางเกงสุดสวยเซ็กซี่ตัวนั้น ผมก็แทบจะลงไปกองกับพื้น ยอมให้เธอเหยียบย่ำจนหนำใจเลย   6.อย่ากังวลไปเลยหนุ่มน้อย เธอไม่ได้ทำเบียร์ไหม้สักหน่อย แค่มีเบียร์ดื่มก็พอแล้วจ้ะ   7.เห็นใส่กางเกงสวยๆ เป็นไม่ได้เลยมาเกาะแกะอยู่นั่นแหละ แม่ก็เลยฝังซะเลย นี่ยังใจดีนะที่ไม่กลบหัวลงไปด้วย   8.วันคริสต์มาสนี้เซอร์ไพรส์หนุ่มน้อยของคุณด้วยเครื่องดูดฝุ่น Hoover…

  • โฆษณารองเท้า ของจีนทำ “เส้นผม” มาติดบังรองเท้า เพื่อให้คนปัดขึ้นเข้าหน้าซื้อ โคตรล้ำ!!

    โฆษณารองเท้า ของจีนทำ “เส้นผม” มาติดบังรองเท้า เพื่อให้คนปัดขึ้นเข้าหน้าซื้อ โคตรล้ำ!!

    กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนัก เมื่อมีบริษัทขายรองเท้าแห่งหนึ่งในจีนทำโฆษณาสุดกวนโอ๊ยออกมา หลอกตาผู้บริโภคมากมายให้กดเข้าไปดูสินค้าลดราคา ไม่รู้ว่าคิดได้ยังไง โฆษณาชิ้นนี้เป็นของบริษัทรองเท้า Kaiwei Ni ที่ต้องการให้คนกดเข้ามาดูรองเท้าลดราคาของตน พวกเขาจึงคิดกลอุบายลวงตาขึ้นมาในโฆษณาชิ้นนี้ นั่นก็คือการวาดเส้นผมปลอมหนึ่งเส้นติดเข้าไปในตัวโฆษณาด้วย แล้วเผยแพร่โฆษณาชิ้นในลงบนอินสตาแกรม     ซึ่งคนที่ใช้มือถือทุกคนที่เห็นโฆษณาตัวนี้ ก็จะคิดว่ามีเส้นผมติดอยู่บนหน้าจอของพวกเขา และวิธีจัดการกับเส้นผมง่ายๆ ก็คือปัดมันให้พ้นจากหน้าจอโทรศัพท์แค่นั้นเอง แต่เมื่อทำการปัดเส้นผมปลอมไปแล้ว กลับกลายเป็นว่าตนเองโดนหลอกให้เปิดเข้าดูโฆษณาซะงั้น ผู้ใช้งานอินสตาแกรมคนหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า Blake Robbins ก็หลงกลกับลูกเล่นของโฆษณาตัวนี้เช่นกัน จึงได้นำโฆษณาตัวนี้ไปแชร์เตือนภัยชาวเน็ตใน ทวิตเตอร์ของเขา   ทวีตของ Blake Robbins   ตัวโฆษณาถูกวิจารณ์ไปต่างๆ นานา บางส่วนก็ชื่นชมตัวโฆษณาว่าทำมาได้ดีทีเดียว เพราะว่าทั้งดึงดูดความสนใจของคน และยังมีลูกเล่นแปลกๆ ให้คนกดเข้าไปดูโดยไม่รู้ตัวอีกด้วย นอกจากนี้ยังคิดว่าคนที่คิดโฆษณานี้มีความคิดล้ำหน้าไม่เบาเลย แต่อีกส่วนก็รู้สึกหัวร้อนกับโฆษณา เพราะพวกเขาไม่ได้อยากกดเข้าไปดูโฆษณาสักหน่อย แต่โดนหลอกให้กดเข้าไปต่างหาก ทำให้พวกเขาเสียเวลามานั่งดูอะไรที่พวกเขาไม่ต้องการ ซึ่งการกระทำแบบนี้เหมือนการหลอกลวงผู้บริโภคอยู่เนืองๆ นั่นเอง     ทวีตนี้มีคนให้ความสนใจมากมาย และถูกแชร์ไปกว่า 2,000 ครั้ง จนในที่สุดก็ไปผ่านตาถึงอิสตาแกรมของบริษัท Kaiwei Ni เข้าจนได้ ทางบริษัทจึงก็ได้เข้าไปตอบในทวีตนั้นว่า ไม่ต้องห่วงเรื่องโฆษณาตัวนี้นะ เพราะว่ามันถูกสั่งถอดถอนออกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และทางบริษัทยังถูกสั่งห้ามโพสต์โฆษณาอื่นใด…

  • รวมสิ่งที่ยืนยันว่า เมืองไทยชอบทำอะไรยากๆ ใช้ชื่องงๆ ของอะไรก็เรียกตรงกันข้าม!?

    รวมสิ่งที่ยืนยันว่า เมืองไทยชอบทำอะไรยากๆ ใช้ชื่องงๆ ของอะไรก็เรียกตรงกันข้าม!?

    เคยคิดสงสัยหรือตั้งคำถามเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในประเทศของเรากันบ้างมั้ยเอ่ย!? #เหมียวเลเซอร์ เองก็เพิ่งจะมารู้สึกตะหงิดๆ ก็เมื่อตอนโตขึ้นเนี่ยแหละ เพราะว่าตั้งแต่เด็กนั้น ยังใสซื่อไม่รู้เรื่องอะไรเลย…     อ่ะ เรามาลองยกตัวอย่างกันง่ายๆ ว่าต้นกำเนิดชื่อสิ่งของแต่ละชนิดนั้นมันมาได้ยังไง แล้วทำไมมันถึงได้ชื่อนั้นมา ทั้งๆ ที่ความจริงแล้ว ชื่อของมันกับสิ่งที่เห็นแทบจะไม่เกี่ยวข้องกันเลยแม้แต่นิดเดียว อย่างที่เค้าว่ากันนั่นแหละ คือประเทศไทยเข้าใจยากเหลือเกิน… ถ้ายังนึกไม่ออก เดี๋ยวจะให้ทีมสำรวจไปพิสจูน์ให้ทุกท่านให้เห็นกับตาว่ามันเป็นยังไง!! อย่าเพิ่ง ‘งง’ กันไปก่อนล่ะ   ส้มตำ แต่ไม่ได้มีส่วนผสมของส้มเลยแม้แต่นิดเดียว…   ซีอิ๊วขาว แต่ดันมีสีดำสนิท…   ขนมหวานหน้าโรงเรียน ขายในประเทศไทย แต่ชื่อไปไกลถึงนครโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น   ม.ศรีปทุม อยู่กรุงเทพฯ ม.กรุงเทพ อยู่ปทุมฯ วัดปทุม อยู่สยาม ส่วน ม.สยาม อยู่บางหว้า เอ้อ!?   ลามไปจนถึงร้านก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาทำเอง ยังต้องให้ลูกค้าทำเองเลย!?   แม้แต่เรื่องบอกความในใจง่ายๆ แต่ทำไม๊ ทำไม มันยากเหลือเกินนะ… อันนี้ประสบการณ์ตรง แหม่ ย๊ากยากเสียเหลือเกิน…

  • รวม 15 ภาพโฆษณาที่ดูรอบเดียวคงไม่พอ เพราะมันเตะตา จนต้องหันกลับมามองอีกรอบ..

    รวม 15 ภาพโฆษณาที่ดูรอบเดียวคงไม่พอ เพราะมันเตะตา จนต้องหันกลับมามองอีกรอบ..

    ในยุคที่โฆษณามีอยู่ทุกที่บนท้องถนน หรือตามป้ายบิลบอร์ดต่างๆ เราก็มักจะไม่ค่อยได้สนใจมันเสียเท่าไหร่ เพราะบางทีมันก็ดูธรรมดาไม่น่าสนใจ หรือไม่ก็เป็นอะไรที่ดูซ้ำไปซ้ำมาซะหมด ด้วยเหตุนี้จึงทำให้นักโฆษณาหลายๆ คน ต้องหาไอเดียและคตวามแตกต่างให้กับโฆษณาของตนเอง เพื่อสร้างงานอันเตะตาและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมากที่สุด อย่างเช่น 15 ภาพโฆษณาในวันนี้ ซึ่งต้องยอมรับถึงไอเดียของเหล่าคนคิดเลยล่ะ จะมีอะไรกันบ้างมาดูกันเลย….   โฆษณารณรงค์ ถ้าอนาคตข้างหน้า โลกขาดน้ำ เราจะยังดูมันไหลผ่านเฉยๆ แบบนี้อีกเหรอ   Boots leg and foot cream เพื่อหัวเข่าและเท้าที่ดูเซ็กซี่… (บอกว่าหัวเข่าก็ หัวเข่าดิ)     Splashdown Waterpark  สวนน้ำที่มันซะจนเสื้อผ้าอยู่ไม่เป็นที่   พิพิธภัณฑ์แวนโก๊ะจัดพิพิธภัณฑ์กลางคืน…..แต่ดูแล้วงานน่าจะดึกหน่อยนะ แวนโก๊ะยังต้องถ่างตาอยู่ หูฟัง AIAIAI “ที่ฟังแล้วจะรู้สึกเซ็กซี่ทันที”   “ตัว R กับ เด็ก คุณเห็นอะไรก่อน? ….ฉะนั้นขับรถก็หยุดพิมพ์ซะ”   ที่โกนหนวด Shick  “ปลดปล่อยมัน จากผิวหนังของคุณซะ”   ถุงยาง Durex “กล้องพร้อม…

  • ย้อนวันเกิน!! รวม 10 เพลงโฆษณายุคไทยวินเท๊จ วินเทจ มีใครทันได้ฟังในสมัยนั้นบ้าง

    ย้อนวันเกิน!! รวม 10 เพลงโฆษณายุคไทยวินเท๊จ วินเทจ มีใครทันได้ฟังในสมัยนั้นบ้าง

    จะว่าไปแล้วการนำเสนอสินค้าให้เป็นที่รู้จักก็ต้องผ่านการทำใบโฆษณาไปแปะตามผนังห้างร้านต่างๆ อีกสิ่งหนึ่งที่ไม่ควรมองข้ามเลยก็คือสื่อที่มาในรูปแบบของเสียง ใช่แล้ว มันก็คือเพลงโฆษณานั่นแหละ     โดยที่เมื่อก่อนนั้นจะได้ยินตามวิทยุทั่วไป เปิดแบบคั่นระหว่างรายการ ได้ยินครั้งแรกอาจจะไม่ค่อยรู้สึกอะไร ต่อพอได้ฟังบ่อยๆ ก็เริ่มรู้ถึงเอกลักษณ์สินค้าแต่ละตัว แถมแต่ละอย่างก็ช่างจะสรรสร้างคำมาร้อยให้เป็นเพลงที่ซึมซับเข้าไปในความจำได้อย่างง่ายดาย ฮ่าฮ่า!! มีใครทันอันไหนบ้างเนี่ย   1. ถ่านไฟฉายตรากบ   2. โรงเรียนสอนขับรถ ส.สะพานมอญ   3. แป้งน้ำสมใจนึก   4. แป้งน้ำสปริงซอง   5. โสมเกาหลีตังกุยจั๊บ   6. สเปรย์น้ำหอมคิงส์สเตลล่า   7. พู่กัน สง่า มะยุระ   8. แบตเตอรี่โบลิเด้น   9. ยาหม่องน้ำซีชวนอิ๊ว   10. ครีมย้อมผมซีโอต้า   อื้อหืออออออ!! แต่ละเพลง เหมียวนี้ไม่เค๊ย ไม่เคยจะได้ยินมาก่อนเลยนะ ขอบอก แต่ยังจำแว่วๆ เสียงของถ่านไฟฉายตรากับได้อยู่…

  • ลูกอีช่างทิ้งต้องสั่นสะเทือน!! ภาพโฆษณาที่เจ็บจี๊ดไปถึงขั้วหัวใจ ตัดแปะคำบนขยะบอกเป็นนิสัย

    ลูกอีช่างทิ้งต้องสั่นสะเทือน!! ภาพโฆษณาที่เจ็บจี๊ดไปถึงขั้วหัวใจ ตัดแปะคำบนขยะบอกเป็นนิสัย

    ปัญหาของขยะที่ทิ้งไม่ลงถัง ขยะที่ถูกทิ้งข้างทางเรี่ยราด ถึงแม้จะจัดถังขยะไว้ให้แล้ว แต่สุดท้ายก็ทิ้งไว้กลางทางอยู่ดี นอกจากจะทำให้บริเวณนั้นสกปรกแล้ว ยังบ่งบอกได้ถึงลักษณะนิสัยของประชากรในภาพรวมได้เลยนะ สะท้อนให้เห็นถึงความมักง่าย!!   Selfish เห็นแก่ตัว   และภาพโฆษณาชวนเชื่อเสียดสีชุดนี้ ไม่ได้ต้องการให้เป็นโฆษณาเพื่อการค้าแต่อย่างใด โดยมีจุดประสงค์เพื่อปลูกจิตสำนึกในตัวมนุษย์ผู้มักง่าย ผลิตโดยองค์กร Livegreen จากเมืองโตรอนโต ประเทศแคนาดา   Lazy ขี้เกียจ   สร้างสรรค์ด้วยวิธีการตัดแปะคำที่มีอยู่บนบรรจุภัณฑ์ต่างๆ หลากหลายชนิดให้เกิดเป็นคำศัพท์ที่จี้ได้ตรงจุด ให้กระทบกับบุคคลที่มักง่าย เห็นแก่ตัว ขี้เกียจ ซึ่งก็มาจากแนวคิดที่ว่า ‘เศษขยะที่ถูกทิ้งบ่งบอกอะไรได้มากมายเกี่ยวกับตัวคุณเอง’ แบบว่าไม่ต้องบ่นให้ยืดยาว ให้ภาพเล่าเรื่องแทน!!   Pig คำด่าที่แปลว่าหมู ให้ภาพลักษณ์ของความสกปรก กินเรี่ยราด   Low Life ชีวิตอันต่ำตม (สกปรก เลอะเทอะ)   Dumb ไอ้งั่ง   ก่อนหน้านี้ของฝั่งสหรัฐฯ ก็เคยทำเหมือนกัน ด่าเลย ขอแรงๆ!!   โฆษณาชวนเชื่อชุดนี้ อาจจะไม่สามารถแก้ไขนิสัยของผู้มักง่ายได้อย่างทันที ต้องอาศัยระยะเวลาเพื่อให้บุคคลในกลุ่มมักง่ายได้ปรับปรุงตัว อย่างน้อยก็น่าจะเข้าไปสะกิดในจิตใจของพวกเขาบ้างแหละ ที่มา…

  • ฉันคิดถึงเธออยู่!? รวมภาพโปสเตอร์โฆษณาไทยในยุคอดีต คำโปรยโฆษณานี่หรอยแร๊ง!!

    ฉันคิดถึงเธออยู่!? รวมภาพโปสเตอร์โฆษณาไทยในยุคอดีต คำโปรยโฆษณานี่หรอยแร๊ง!!

    ว่ากันด้วยเรื่องของวงการโฆษณาของประเทศไทยที่มีมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่ในยุคอดีตที่นิยมทำการโฆษณาผ่านป้ายประกาศหรือโปสเตอร์ต่างๆ เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ชั้นเยี่ยมของตน จนยุคสมัยที่เปลี่ยนไป สื่อที่ใช้ในการโฆษณาก็เปลี่ยนไปด้วย ย้ายมาเป็นรูปแบบสื่อโทรทัศน์และผ่านโลกออนไลน์มากขึ้น   สบู่ยาบริบูรณ์ กับการบรรยายสรรพคุณ รวมไปถึงราคา   แต่หนึ่งสิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนไปเลยนั่นก็คือ ความคิดสร้างสรรค์ของการคิดคำโปรยโฆษณาที่มักจะทำให้ผู้คนติดภาพลักษณ์อยู่เสมอ รวมไปถึงอารมณ์ขันที่ซ่อนอยู่ภายในโฆษณาเหล่านั้น ซึ่งจากโฆษณาไทยในอดีตก็ทำให้เรารู้ได้ว่า วงการโฆษณาไทยมีความครีเอทีฟสูงมาตั้งแต่ยุคโน้นกันเลยนะเนี่ย!!   จอนห์นี่ วอล์คเกอร์ สมัยอดีต ยังเรียกว่า ยอนนี่   โกแท๊กซ์ หรือ ผ้าอนามัยสำหรับท่านผู้หญิง   ไม่ยักรู้มาก่อนว่า โอวัลติน เคยทำแป้งกับเขาด้วย   ถ่านไฟฉายตรากบหรือจะสู้โปรโมชั่นถ่านไฟฉายตรานกฮูก   ถ่ายรูป! ถ่ายรูป!   โฆษณาตะเกียง เปลี่ยนจากกลางคืนให้เป็นกลางวัน (โฆษณาความสว่าง)   จักรยานมีตั้งร้อยแปด แต่จักรยานอย่างดี มีแห่งเดียว!! เอ้า ปั่นดิปั่น สิงโตตามหลังมาแล้ว   ใครๆ ก็ทำเค้กได้   ออด๊าซ กลิ่นหอมแท้ ฟองถึงใจ   เคล็ดยอก…

  • เหมียวพาย้อนดู 12 โฆษณา ‘ยุคก่อน’ ที่อาจจะปกติ แต่แอบสยอง

    เหมียวพาย้อนดู 12 โฆษณา ‘ยุคก่อน’ ที่อาจจะปกติ แต่แอบสยอง

    ถ้าเรานั่งฟังคนรุ่นคุณปู่คุณย่าของเราเล่าเรื่องราวในอดีต คุณจะรู้ได้ว่ามันมีความต่างของการใช้ชีวิตในแต่ละยุคแต่ละสมัยอยู่  จนอาจจะทำให้คุณสงสัยว่า “พวกเค้ากำลังคิดอะไรอยู่กันเนี่ย!!” นี่เป็น 10 ตัวอย่างภาพโฆษณาจากอดีต ที่พวกเขาใช้ภาพเด็กๆในการโฆษณาสินค้าที่ดูยังง๊ายยยยังไงก็ไม่เข้ากันซักนิด เหมียวว่ามันทั้งแปลกและน่าสยองยังไงก็ไม่รู้ อึ๋ยยยย   1.สียอมผ้า Diamond Dyes   2. 7-Up   3.Fry’s Pure Concentrated Cocoa   4. ปืนพก Iver Johnson Revolvers!!   5.อาหารเช้าซีเรียล Post’s Sugar Krinkles   6.Skinless (hot dogs)   7. Grove’s Tasteless Chill Tonic   8. กระดาษแก้ว Du Pont Cellophane   9. Marlboro   10.Philip Morris   ที่มา viralnova