เรื่องราวของหนุ่มวัยรุ่นจากมหานครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ที่ใช้เวลาว่าง แทนที่จะไปนั่งเล่น PS5 หรือ Xbox เหมือนวัยรุ่นคนอื่น ๆ แต่พี่แกดันไปตามหา “กล้องตรวจจับความเร็ว” แล้วเอามาบอกคนอื่น จนได้รับการยกย่องให้เป็น “ฮีโร่”
ขอแนะนำให้ทุกท่านรู้จักกับ Beau Jackson วัย 17 ปี ทุกคนสามารถเจอเขาได้ที่บริเวณข้างถนนสักแห่งทางตอนเหนือของกรุงซิดนีย์
โดยที่พี่แกจะยืนอยู่ข้างถนนพร้อมกับป้ายที่เอาไว้เตือนคนที่ขับผ่านไป-มา ว่า “มีกล้องตรวจจับความเร็วอยู่นะ” ให้คนระมัดระวังและขับช้าลง เพื่อที่จะได้ไม่ต้องเสียค่าปรับ
ก่อนอื่นต้องขออธิบายก่อนว่า ที่ซิดนีย์เจ้าหน้าที่ตำรวจจะขับรถออกมาพร้อมกับกล้องตรวจจับความเร็ว ไปจอดตามจุดต่าง ๆ
แล้วนาย Beau เนี่ยก็มีงานอดิเรกคือขี่มอเตอร์ไซค์ตามหารถของตำรวจที่จอดดักอยู่ แล้วก็วนกลับมาจอดดักด้านหน้าห่างประมาณ 500 เมตร ถึง 1 กิโลเมตร พร้อมกับป้ายที่เขียนไว้ว่า Speed Camera หรือแนว ๆ ว่าบอกว่า “กล้องตรวจจับความเร็วอยู่ด้านหน้า”
นาย Beau ให้สัมภาษณ์กับสื่อถึงสาเหตุที่ทำแบบนี้ว่า “ผมอยากจะดูแลผู้คน เนื่องจากว่าใครต่อใครต่างก็ต้องเจอกับสถานการณ์ที่ยากลำบากในช่วงนี้ ผมไม่อยากให้พวกเขาโดนปรับ”
“เพราะค่าปรับแต่ละทีมันหนักหนาเอาเรื่องอยู่ (ค่าปรับความผิดขับรถเร็วกว่ากำหนดในออสเตรเลียอยู่ที่ 5,700 บาท) ผมแค่อยากช่วยพวกเขาเซฟค่าใช้จ่ายตรงนี้ก็เท่านั้นเอง”
นอกจากนี้ Beau ยังเปิดเผยอีกว่า เขาสอบถามกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียบร้อยแล้วกับสิ่งที่เขาทำ ซึ่งเจ้าหน้าที่บอกว่ามันไม่ใช่การกระทำที่ผิดกฎหมายแต่อย่างใด และเขาสามารถทำได้
“ผมแค่อยากช่วยเหลือผู้คน สิ่งที่ผมทำมันเหมือนกับทำให้คนขับรถช้าลง มันคือกิจกรรมจิตอาสาเสียด้วยซ้ำ”
เท่านั้นยังไม่พอ พี่แกยังบอกอีกว่า “การซ่อนกล้องตรวจจับความเร็วเป็นเรื่องที่ไม่แฟร์เอาซะเลย ถ้าพวกเขาออกกฎหมายนี้มาเพื่อช่วยชีวิตคน ก็ควรจะทำป้ายออกมาเตือนดี ๆ ไม่ใช่มาแอบจับกันแบบนี้ ผมคิดว่ามันไม่ถูกต้อง”
จากสิ่งที่ Beau ทำ เขากลายเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในพื้นที่แถบนั้น บางคนที่ขับผ่านไป-มา บ่อย ๆ ก็มักจะจอดแวะเอาขนม-น้ำ หรือแม้กระทั่งเงินให้แก่เขาเพื่อเป็นการตอบแทน บางส่วนก็ถึงกับยกย่องให้เขากลายเป็นฮีโร่กันเลยทีเดียว
เรียบเรียงโดย #เหมียวหง่าว
ที่มา : dailymail, goldcoastbulletin